posttoday

ประยุทธ์ย้ำไม่ใช้อำนาจตามรธน.จนเกินเลย

25 กรกฎาคม 2557

พล.อ.ประยุทธ์ขอบคุณสื่อที่เข้าใจแจงใช้อำนาจตามมาตรา44ไม่เกินเลยเชื่อคนเข้าใจแต่มีคนแกล้งสร้างเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์ขอบคุณสื่อที่เข้าใจแจงใช้อำนาจตามมาตรา44ไม่เกินเลยเชื่อคนเข้าใจแต่มีคนแกล้งสร้างเรื่อง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2557 เวลา 20.30 น.ว่า เรื่องสื่อ ผมต้องขอขอบคุณที่เข้าใจกัน  ขอให้ผู้รับผิดชอบแต่ละสมาคม ได้ดูแลกัน อย่าให้มีการล่วงละเมิดโดยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่เป็นจริง หรือการให้ข่าวโดยไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้ อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวอ้าง ทั้งนี้ คสช. ไม่ได้มุ่งหวังที่จะใช้อำนาจเข้าไปควบคุมสื่อแต่ประการใด  อยากให้ทุกสมาคมสื่อ และสื่อทุกประเภทมีความเข้มแข็ง และเป็นที่น่าเชื่อถือของสาธารณชนเท่านั้น
   
ผมขอให้ สื่อ สมาคมนักข่าวไทย นักข่าวต่างประเทศ ได้เข้าใจการปฏิบัติงานของ คสช.ในระยะที่ 2 จำเป็นต้องให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด หากท่านไม่ได้มีเจตนาให้ร้าย วิพากษ์วิจารณ์เกินกว่าเหตุ เจตนาไม่บริสุทธิ์ก็คงไม่มีใครไปทำอะไรท่านได้ ขอความร่วมมือด้วย เพราะท่านมีพลังในการจะทำให้สังคมสงบเรียบร้อยหรือวุ่นวายก็ได้ หากท่านมีเจตนาร่วมกันปฏิรูปประเทศ ท่านก็น่าจะเข้าใจ ในระยะที่ 2 ก็อยู่ในการปฏิรูปด้วยในกลุ่มหนึ่งคือ การปฏิรูปสื่อมวลชนทุกแขนง ท่านต้องเข้ามาช่วยเหลือร่วมกันด้วย

?เรื่องการมีรัฐธรรมนูญชั่วคราว  เรามีความจำเป็นต้องกำหนดอำนาจหน้าที่ แต่ละฝ่ายให้ชัดเจน เพราะเป็นการใช้พระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามรัฐธรรมนูญ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 เดือน จะเห็นได้ว่า คสช. พยายามที่จะแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้มุ่งใช้อำนาจในการทำร้ายใคร แต่ใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ความสงบสุขให้กับประชาชนและชาติบ้านเมือง ซึ่งก็คงมีทั้งผู้ที่ถูกใจและไม่ถูกใจบ้าง ที่ผ่านมา คสช. ปฏิบัติงานด้วยความเป็นธรรม มุ่งหวังแต่เพียงว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติมั่นคงยั่งยืน ดังนั้น ทุกพวกทุกฝ่ายน่าจะร่วมมือกับ คสช. ในการทำงาน อย่ามองเฉพาะประชาธิปไตยอย่างเดียว ถ้ามองเฉพาะเรื่องนั้นจะไปเรื่องอื่นไม่ได้ ฉะนั้น ถ้าท่านต่อต้านในทุกประเด็น บางอย่างที่ยังไม่เกิด ท่านเป็นห่วงแบบนั้นแบบนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาถือว่าเป็นบทเรียนรู้แล้ว ถ้าเราไม่ต้องการให้เกิดอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา เราต้องร่วมมือกันในวันนี้ เพื่อจะเดินไปในวันข้างหน้า ตรงนี้อยากจะเรียนว่า เป็นการบริหารงาน ของรัฐบาลใหม่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว

ทุกคนน่าจะมีความสบายใจที่มีการถ่วงดุล ดูแลทั้งรับบาลและ คสช. ซึ่งจะมีอำนาจที่เข้มแข็ง ในการสงบเรียบร้อยต่อสังคม และการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกภาคส่วน วันนี้เป็นสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ ถ้าปกติแล้วคงเลิกแล้วกันทั้งหมด ยังไม่ปกติยังปฏิรูปไม่ได้ วันนี้เพียงแค่ลดความรุนแรงลง มาพบปะ หารือพูดคุยกัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีคนที่ต่อต้านอยู่ มีการสร้างความเข้าใจผิด บิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งในและต่างประเทศ คสช. ได้พยายาม ที่จะชี้แจงถึงอย่างไรก็ยังที่มีคนที่ไม่เข้าใจอยู่ ผมจึงไม่ทราบว่า ไม่เข้าใจจริงหรือว่า ไม่จริง คือ เพื่อจะปกปิดหรือปิดบังหรือไม่ ซึ่งอยากจะขอร้องให้เลิก เพราะการตรวจสอบในปัจจุบันในเรื่องของขบวนการยุติธรรมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องขององค์กรอิสระก็ยังทำอยู่ ใครจะผิดจะถูกก็ว่ากันตรงนั้น
 
หากจะหาว่าเราไปรังแกคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คนใดคนหนึ่ง ดูว่าประเด็นสำคัญคือ เขาทำความผิดจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงจะไม่ถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่ถ้าจริงต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งตรงนี้เราให้เวลาในการสอบสวน พิสูจน์ทราบให้เกิดความชัดเจน มีความเป็นธรรม ไม่มุ่งหวังจะไปใช้อำนาจทำลายล้างใคร ให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้ทำ ถ้าหากเราไม่ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมปกติดำเนินการ คงมีข้อขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีก วันนี้ถ้าเราต้องการจะทำลายจริง เราคงลงโทษไปแล้วฐานะเป็นรัฎฐาธิปัตย์ไปแล้ว ซึ่งมีอำนาจมากมาย แต่เราไม่ได้ใช้ บางพวกว่าไม่ใช้ ผมถามกลับว่าความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ถ้ากระบวนการยุติธรรมปกติไม่ได้สอบสวน อย่าใช้ความรู้สึกอย่างเดียว เพราะวันข้างหน้าต้องอยู่ร่วมกันอีก
   
คสช. จะไม่พยายามทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะ หากเรียกร้องไปและทำตามไป บางอย่างอีกพวกจะบอกว่าไม่ได้ทำ ซึ่งจะต้องสู้ไปอีกเหมือนเดิม ฉะนั้น รอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปด้วย หลักฐานที่เพียงพอ ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับในกฎกติกาของสังคม ให้เป็นไปตามกฎหมายและไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะกฎหมายมีไว้ เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  ผู้กระทำความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่ให้ถูกลงโทษก็ต้องหนีไป ซึ่งจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยต้องถูกจะต้องถูกติดตามจับกุมดำเนินคดี ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายราย
 
คสช. อยากให้ประชาชนและสังคมไทยนึกถึงประเทศชาติให้มาก  มากกว่าความโกรธเกลียดซึ่งกันและกัน จนลืมไปหรือไม่ ว่าตัวเราและลูกหลานในอนาคตจะอยู่อย่างไร ถ้าเรายังคงทะเลาะเบาะแว้งกันต่อไป อาฆาตเครียดแค้นกันต่อไป ลูกหลานจะอยู่อย่างเป็นสุขได้อย่างไร ต้องไปว่าด้วยข้อกฎหมายดีกว่า
 
สำหรับตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ ไม่ว่า คสช. จะมีอำนาจมากเท่าใด หากผู้ใช้อำนาจนั้น ใช้ในการกระทำสิ่งดี ๆ เกิดประโยชน์กับคนไทย กับประเทศไทย ก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ ถ้าเราไว้ใจผู้บริหารประเทศ หรือผู้ที่จะมาอยู่ในกระบวนการใช้อำนาจทุกคน ในขณะนี้ มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม จริยธรรม มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่  อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าเข้ามาแล้วไม่ดี ไม่ทำประโยชน์ไม่โปร่งใสสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา  ฉะนั้น ขอความไว้วางใจกับการใช้อำนาจของ คสช.
 
เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินในระยะที่ 2  เมื่อเรามีนายกรัฐมนตรี  คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เราก็คงปฏิบัติงานในกรอบอำนาจเต็ม คือ การใช้อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ผ่าน ครม.สภานิติบัญญัติกระบวนการยุติธรรม  โดยมีการปฏิรูปในเรื่องที่สำคัญควบคู่ไปด้วย และจะกำหนดให้ผลการปฏิรูปมีผลในทางปฏิบัติในระยะสั้น คือ (ทันที) บางอย่างต้องระยะกลาง (1 ปี) ที่มีรัฐบาล ระยะยาว ส่งต่อรัฐบาล (ต่อ ๆ ไป) ให้ต่อเนื่อง วันนี้ขอให้ทุกคนใจเย็น ๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันตกลงใจ และมีความเห็นชอบร่วมกัน จะได้หาข้อยุติลงได้และจะได้ส่งผลร้ายเช่นที่ผ่านมาอีกในอนาคต มิฉะนั้นแล้ว การเรียกร้อง ต่อสู้ ล้มตายของประชาชนและเจ้าหน้าที่ และการปฏิบัติงานของ คสช. ก็จะสูญเปล่าไปอีกเหมือนเดิม บ้านเมืองกลับเข้าสู่วงจรเดิม ท่านจะยอมแบบนั้นหรือไม่
 
การมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ  เพื่อจะทำให้การปฏิรูป สามารถดำเนินการได้อย่างแท้จริง ทุกอย่างมีเวลาที่จำกัด  ตามที่ได้ประกาศไว้ใน Road Map  เราพยายามทำให้ตามนั้น หากไม่สามารถกำหนดเวลาต่าง ๆ เพื่อให้เดินได้ตามนั้น จะทำให้การปฏิรูปไม่ได้ เวลาที่มีอยู่ไม่ได้ จะทำให้ยืดยาวออกไปอีก เราไม่ต้องการที่จะแสวงหาอำนาจเป็นระยะเวลานาน  ฉะนั้น ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับ คสช.  ฝ่ายเดียว เราพยายามจะทำงาน เราจะแก้ปัญหา แต่การจะช่วยให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้า ต้องเป็นท่าน ร่วมมือกับเรา รับฟังความคิดเห็นร่วมกันกับเรา มีความคิดเห็นอย่างไรสามารถสอบถามมาได้ อย่าไปวิเคราะห์วิจารณ์กันไปเองหรือไปกลัวอะไรที่ยังมาไม่ถึง ถึงวันข้างหน้าถ้าเกิดอะไรไม่ดีก็แก้ไขทันที สรุปว่าต้องมีการแก้ไข
 
ฉะนั้นอยากจะขอความร่วมมือกับทุกคนให้ช่วยกันนำบ้านเมืองไปสู่ความสงบ ไปสู่ประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน อย่างที่ทุกคนต้องการและให้มีความขัดแย้งกันต่อไป ทั้งฝ่ายประชาชน ทั้งฝ่ายการเมือง ข้าราชการต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้สะดวกขึ้นในการรักษากฎหมาย ฉะนั้นหากว่าเกิดความวุ่นวาย ไม่โปร่งใสอีก ซึ่งผมไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร ซึ่งไม่มีทางแก้ไขปัญหาอีกแล้ว คราวนี้ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่จะต้องร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด และถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของประเทศไทย กรุณาอย่าเรียกร้องอะไรกันมากนัก ในระหว่างที่ยังไม่มีการเลือกตั้งโดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งจะต้องร่างขึ้นมาใหม่ ในระยะที่ 2 นี้ ให้ทันเวลาเพื่อจะนำไปสู่การเลือกตั้งประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ และเกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่ทุกพวกทุกฝ่ายต้องการ