posttoday

บิ๊กตู่เครียดเจอคนอ้างชื่อคสช.ไปหากิน

25 กรกฎาคม 2557

พล.อ.ประยุทธ์เครียดมีคนเอาชื่อคสช.ไปอ้างหาผลประโยชน์ไม่สบายใจเจอบัตรสนเท่ห์ซื้ออาวุธหักเปอร์เซนต์

พล.อ.ประยุทธ์เครียดมีคนเอาชื่อคสช.ไปอ้างหาผลประโยชน์ไม่สบายใจเจอบัตรสนเท่ห์ซื้ออาวุธหักเปอร์เซนต์

ประเด็นสำคัญ ๆ ที่สังคมให้ความสำคัญ ในขณะนี้ การเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย คสช. ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องแปลก ที่แปลกก็มีอยู่เพียงว่า สถานการณ์ประชาธิปไตยไทยที่ผ่านมา มีปัญหามาโดยตลอดในทุกมิติ ทั้งนักการเมือง การเข้าสู่ระบบ อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ การทุจริต ความไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ และผลประโยชน์ทับซ้อน จนทำให้ข้าราชการไม่สามารถปฏิบัติงานในการให้การบริการกับประชาชนได้ ผมไม่เข้าใจว่า ผู้เรียกร้องดังกล่าวเหล่านั้น มองข้ามเรื่องที่กล่าวมาไปได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ การประท้วงที่ยาวนาน มาตั้งแต่ปี 2549 2553 2556 และปี 2557 ที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างว่า ทำเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด คสช. ต้องการที่จะยุติและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยั่งยืน น่าจะมองเหตุผลตรงนี้มากกว่า น่าจะเข้าใจกัน และก็ไปหาว่าใครที่ทำให้เกิดสถานการณ์เหล่านั้น หากท่านมาประณามเรา ซึ่งเราจะเข้ามาแก้ไข ไม่น่าจะถูกต้องเท่าไหร่นัก ก็ขอความเป็นธรรมด้วย
 
การเรียกร้องผลประโยชน์ ในการแต่งตั้งบอร์ด สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาล  ผมพูดมาหลายครั้งแล้วก็ยังมีอยู่ ทราบแล้วว่าใครเป็นคนไปเรียกร้อง ยืนยันว่า คสช. ไม่มีทั้งสิ้น และกำลังหาวิธีการดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และผู้ที่เคยเสียเงินเสียทองให้ไป ให้เรียกคืนโดยทันที มิฉะนั้นท่านอาจจะเสียเงินเปล่า คนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช. ในปัจจุบันนั้น คสช. จะมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการของ คสช. ทั้งในด้านประวัติส่วนตัว ผลการปฏิบัติงาน การทุจริตคอรัปชั่น การถูกฟ้องร้อง หรืออยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง โดยจะตรวจสอบทั้งหมด มิได้รับรายชื่อมาจากผู้ใดแล้วแต่งตั้ง ไม่ใช่แบบนั้น หากแต่งตั้งไปแล้วตรวจพบมีความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ปลดออกเช่นกัน
 
การเรียกร้อง บัตรสนเท่ห์ เพื่อโจมตี คสช. กองทัพบก ถือว่าเป็นการเรียกร้อง ใส่ความที่ไม่เป็นธรรม การจัดหา จัดซื้ออาวุธ สิ่งนี้ได้เรียนมาหลายครั้งแล้วว่ามีการตรวจสอบอยู่แล้ว ฉะนั้นที่ผ่านมาก่อนจะซื้ออะไรได้ มีการตรวจสอบมาทั้งสิ้น หน่วยงานของรัฐก็ถามมา คสช. ก็ตอบไป จนบางครั้งทำให้การจัดหาจัดซื้อเกิดความล่าช้าก่อนกำหนด ก็ต้องไปแก้ไขต่อไปเรื่อย ๆ เพราะ คสช. ต้องการให้ทุกคนไว้วางใจ เพราะฉะนั้นอย่าโจมตีกันอีกเลยในเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าเมื่อซื้อมาแล้วเกิดชำรุด ก็ต้องซ่อมกันต่อไป บางอย่างเราไม่ได้ผลิตเอง ไม่ได้ทำเองทั้งสิ้น บางอย่างต้องซื้อมา เพื่อทดลองใช้งาน และนำไปสู่การวิจัยและพัฒนา ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ด้วย นี่ก็เรียนมาให้ทราบเท่านั้นเอง เราก็อยากจะมีการผลิต มีการออกแบบ มีการผลิตเอง มีงบประมาณในการวิจัยพัฒนา แต่บางอย่างต้องใช้เวลานานมาก เพราะ คสช. ทำเองไม่ไหวแน่
 
กรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ในโครงการที่ คสช. ได้อนุมัติไปของทุกกระทรวง ยืนยันทุกกระทรวง ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการก่อสร้าง การบริหารจัดการน้ำ  การขุดลอกคูคลอง สาธารณูปโภคพื้นฐาน และอื่น ๆ และได้มีการอ้างว่า สามารถเคลียร์กับ คสช. เคลียร์กับหัวหน้า คสช. ได้ และมีการแบ่งการเรียกรับผลประโยชน์ให้กับ คสช. อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหาร หรือใครก็ตาม ขอให้แจ้ง คสช. ทราบโดยทันที คสช. จะดำเนินการโดยด่วน
 
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต ผิดกฎหมาย ตั้งแต่เริ่มจัดทำแผนงานโครงการ จนกระทั้งถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ต่าง ๆ มีปัญหามาโดยตลอด ต้องช่วยกันดูแล ต้องทำให้โปร่งใส ตั้งแต่เรื่องการจัดทำงบประมาณ แผนงาน โครงการ การเปิดประมูลให้มีการแข่งขันโดยเสรี รอฟังเวลาเขาประกาศเชิญชวนไปแข่งขัน ก็ไป ถ้าท่านไม่ไป แล้วบอกว่าไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็คงไม่ได้ ท่านต้องไปแข่งขันสู้กับเขาโดยเสรี ปัจจุบัน คสช. มีคณะกรรมการตรวจสอบทุกขั้นตอน และแต่ละกระทรวง ทบวง กรม แต่ละระดับก็จะมีความรับผิดชอบตามลำดับชั้นลงไป จะต้องไม่มีเด็ดขาด ในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์
 
การแก้ไขปัญหาทุจริต คอรัปชั่น  เป็นนโยบายของ คสช. อยู่แล้ว ในช่วงนี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยมีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบแผนงานโครงการที่ใช้งบประมาณมาก ๆ ของแต่กระทรวง แต่ละส่วนราชการ ก็มีอีกหลายโครงการที่มีลักษณะผิดปกติ

ทั้งนี้ได้สั่งให้ทบทวน และระงับในบางกรณี รวมทั้งได้ให้ส่วนราชการต่าง ๆ ได้วางรากฐานการตรวจสอบ ป้องกัน การทุจริตคอรัปชั่น และการปลูกฝัง ส่งเสริม การเป็นข้าราชการที่ดีในทุกระดับ  อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการสร้างมาตรการกำหนดให้ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล จริยธรรม และนำหลักการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส มาใช้ในการทำงาน ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดี ส่งเสริมความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐ ซึ่งหากทุกกระทรวง ทุกส่วนราชการ มุ่งเน้นในเรื่องนี้ ก็จะเป็นรากฐานที่ดีต่อข้าราชการไทยต่อไป.