เสธ.อ้ายจัดงานต้อนรับ"วีระ"พ้นคุกเขมร

“บุญเลิศ”จัดงานต้อนรับ“วีระ สมความคิด”หลังพ้นคุกเปรย์ซอว์ ลั่นถึงเวลาแฉเหตุถูกจับ เผยเตรียมพร้อมเข้าขอบคุณคสช.ช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ได้เป็นประธานจัดงาน Veera, A Free Spirit “อิสรีย์แห่งวีระ” ณ ห้องประชุมปฏิพัทธ์ภูบาล สนามม้านางเลิ้ง เพื่อรำลึก 3 ปี 6 เดือน การถูกจองจำของนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่เรือนจำเปรย์ซอว์ ประเทศกัมพูชา

นายวีระ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงานว่า รู้สึกดีใจที่มีคนรักและห่วงใย โดยเฉพาะพล.อ.บุญเลิศ ได้จัดงานต้อนรับ ซึ่งวันนี้ (6ก.ค.) จะพูดเปิดใจถึงชีวิตถูกคุมขัง แต่ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง เนื่องจากมีผู้ใหญ่ขอไว้ เพราะอาจไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และแผนความปรองดอง รวมถึงการปฏิรูป และหลังจากนี้จะทำงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ ในฐานะเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) และแกนนำภาคืเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ โดยในสัปดาห์จะเข้าไปสะสางงานค้างอยู่ที่ออฟฟิศ

ส่วนเรื่องการทำงานปกป้องอธิปไตยไทย เบื้องต้นทหารยังคงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปก็คงไม่ขอไปยุ่ง แต่ถ้าทหารปล่อยปละละเลย ให้มีปัญหาขึ้นมาอีก ก็ต้องเข้าไปช่วย ส่วนการเข้าพบเพื่อขอบคุณพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหันหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ที่ได้ประสานความช่วยเหลือออกจากเรือนจำ ยืนยันว่าหากมีเวลาจะเข้าไปขอบคุณด้วยตัวเอง แต่ช่วงนี้คงต้องรอ เพราะหัวหน้าคสช.ไม่ว่าง

สำหรับสาเหตุที่ได้รับการปล่อยตัว นายวีระ กล่าวว่า อาจจะเป็นสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไป และทางกัมพูชาคงอยากฟื้นความสัมพันธ์กับคสช. แต่เชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายสาเหตุมากกว่านั้น คงไม่ใช่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ส่วนจะเป็นสาเหตุใดนั้นไม่ทราบ

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมารัฐบาลอภิสิทธ์และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ประสานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่หรือไม่ นายวีระ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ ต้องไปถามกับสองรัฐบาลเอง แต่เท่าทีดูคิดว่าทั้งสองรัฐบาลไม่ค่อยจริงใจในการช่วยเหลือ หากจริงใจช่วยเหลือ น่าจะดำเนินการได้ดีกว่านี้ และรู้สึกว่ารัฐบาลในขณะที่ตนถูกควบคุมตัวไม่ทำหน้าที่ตั้งแต่ต้นจริงจังปล่อยให้ถูกจับตัวไปดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยแน่นอน แต่ขอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม และจะเล่าตั้งแต่วินาทีแรกที่ไปตรง และใครเป็นคนริเริ่มความคิดดังกล่าว แต่ที่ยังไม่พูดตอนนี้เพราะไม่อยากให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงนโยบายปรองดอง และการปฏิรูปที่คสช.กำลังดำเนินการอยู่

“เมื่อมีคนขอร้องผมไม่ให้พูดตอนนี้ เพราะท่านอุตสาหช่วยผม ขอแค่นี้ทำไมจะทำให้ท่านไม่ได้ และนับตั้งแต่ถูกคุมขังมาไม่เคยพบเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาเลย ยกเว้นเมื่อครั้งนายเขียว กันหฤทธิ์ รมว.กระทรวงข่าวสาร และโฆษกพรรคซีพีพีกัมพูชา เดินทางไปพร้อมนายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ เข้าเยี่ยมผมที่จำเปรย์ซอว์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2554 โดยที่รมว.ของเขานั่งฟังผมพูดกับนายกษิตโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ และที่เท่าอยู่ในเรือนจำผมได้รับอำนวยความสะดวกอย่างเสียมิได้”นายวีระ กล่าว

นายวีระ ยังกล่าวเปิดใจตอนหนึ่งภายในงานถึงการถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรย์ซอว์ ประเทศกัมพูชาว่า ในระหว่างถูกคุมขัง ตนมีอาการเจ็บป่วย แต่บอกกับตัวเองว่ายังตายไม่ได้ และจะกลับมาตายบนแผ่นดินไทย และวันใดที่ได้แผ่นดินไทยกลับมาจะมีความสุขมากกว่านี้

ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเร็ว เพราะคิดว่าจะถูกคุมขังประมาณ5ปีขึ้นไป แต่เมื่อกลับมาเร็วต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช.และนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ประสานช่วยเหลือ 

ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการจัดกิจกรรมเพื่อเป็นกำลังใจ รับฟังและพูดคุยถึงวีรกรรมนายวีระขณะถูกคุมขัง โดยมีพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสว.สรรหา รวมถึงบุคคลในครอบครัวและบุคคลที่ใกล้ชิดและมวลชนอีกจำนวนหนึ่งมาร่วมงานต้อนรับอย่างชื่นมื่น