ยึดเปรมโมเดลฟื้นฟูชาติ
ไตรรงค์แนะตั้งคนกลางที่เป็นที่ยอมรับของสังคมเข้ามาคุมแผนฟื้นฟูเช่นเดียวกับยุคพล.อ.เปรม สกัดรั่วไหลนัดถกพรรคร่วมทบทวนเม็ดเงินไทยเข้มแข็งหลังเจียดเยียวยาพิษม็อบแดง
ไตรรงค์แนะตั้งคนกลางที่เป็นที่ยอมรับของสังคมเข้ามาคุมแผนฟื้นฟูเช่นเดียวกับยุคพล.อ.เปรม สกัดรั่วไหลนัดถกพรรคร่วมทบทวนเม็ดเงินไทยเข้มแข็งหลังเจียดเยียวยาพิษม็อบแดง
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการหารือถึงภาระงบประมาณ ซึ่งอาจมีผลกระทบอยู่บ้างหลังจากต้องมีการจัดสรรงบประมาณ เข้าให้การช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ประกอบการ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงการซ่อมแซม อาคารสถานที่ ระบบสาธารณูปโภค
"วันนี้ครม.ได้หารือเพิ่มเติมว่าหลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็งส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นมากเมื่อตอนต้นปี แต่เมื่อมีกากการชุมนุมทางการเมือง เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ และเกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการ ประชาชน ต้องใช้งบประมาณเข้าไปฟื้นฟู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงได้แจ้งนายกรณ์ จติกวณิช รมว.คลัง และผู้เกี่ยวข้องนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเตรียมปรับแนวทางการใช้งบประมาณในส่วนของโครงการไทยเข้มแข็ง" นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า นายกฯ ให้นโยบายว่า การปรับแนวทางใช้งบประมาณในโครงการสำคัญๆ ต้องยึดความต้องการของประชาชนมาก่อน และพิจารณาถึงขีดความสามารถ
นายปณิธาน กล่าววา ได้มีนักลงทุน ผู้ประกอบการรายใหญ่ ติดต่อมายังรัฐบาลเพื่อขอบริจาคเงิน เยียวยาผู้ประกอบการรายย่อย ประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลต้องมาพิจารณาว่า จะจัดระบบให้กลุ่มเหล่านี้เข้ามาช่วยเหลือ หรือเข้าบัญชีรัฐบาลอย่างไร ซึ่งถ้าได้รับการช่วยเหลือ อาจทำให้ภาวะงบประมาณไม่ตรึงตัว
“เขาเห็นว่ารัฐบาลมีข้อจำกัดในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ประชาชน แต่ถ้าผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาสนับสนุน จะทำให้ การฟื้นตัวของผู้ประกอบการจะเกิดขึ้นเร็ว ส่วนจะลงขันแบบไหนต้องดูความชัดเจนภาครัฐก่อน เมื่อฟื้นตัวดี ภาคเอกชนทั้งหมดจะแสดงจุดยืนให้เห็นถึงการเอื้อซึ่งกันและกันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับผู้ประกอบการรายย่อย ผู้มีเงินทุนเยอะๆ ออกมาช่วยผู้มีเงินทุนน้อย และต้องการสะท้อนไปถึงผู้ชุมนุมทางการเมืองให้เห็นถึงความมั่นคงระยะยาวว่าเป็นการเรียกร้องไปถึงผู้ชุมนุม หากจะชุมนุมต้องไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ทราบว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ จะรับผิดชอบในการประสานงานกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ จะรับผิดชอบในส่วนผู้ประกอบการรายย่อย
สำหรับแนวทางขณะนี้ มี 2 แนวทาง ระหว่งการตั้งกองทุน กับการเปิดบัญชี ต้องพิจารณาว่าแบบใดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้มาก อย่างไรก็ตาม นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกฯ แสดงความเห็นในที่ประชุมครม. ว่า การบริหารจัดการเม็ดเงินส่วนนี้ มีความสำคัญ เพราะสังคมจะกังวลถ้ารัฐบาลจัดระบบไม่ดี ดังนั้นต้องนำคนที่มีความไว้วางใจ เป็นที่ยอมรับทางสังคม เข้ามาจัดการ โดยยกตัวอย่าง รูปแบบสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีการจัดตั้งคนเข้ามาบริหาร โดยไม่มีปัญหา ซึ่งครม.แสดงความเห็นด้วย