ไทยเร่งตรวจสอบข่าวสะพัดเขมรถูกสังหารที่ปราจีนฯ

ไทยขอตรวจสอบเขมรตาย6ข่าวจริงหรือไม่ ขณะที่ทูตกัมพูชาเข้าพบรองปลัดต่างประเทศถามความชัดเจนจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่านายซาร์ เค็ง รมว.มหาดไทยกัมพูชา ตำหนิทางการไทยทำให้แรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทยต้องเร่งกลับประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำทางทหารของไทยรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีของแรงงานชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะนั่งรถยนต์กลับประเทศ ว่า กระทรวงการต่างประเทศขอตรวจสอบข่าวดังกล่าวว่ามีรายละเอียดหรือข้อเท็จจริงอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่าข่าวนี้ออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการหารือกันระหว่างนางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงควรยึดสิ่งที่ได้จากการหารือดังกล่าวที่มีขึ้นอย่างเป็นทางการ เพราะเอกอัครราชทูตกัมพูชาได้รับทราบข้อมูล และมีความเข้าใจในสถานการณ์ของไทย จากนั้นเขาก็จะนำผลการพูดคุยนี้ไปรายงานให้รัฐบาลกัมพูชารับทราบต่อไป 

สำหรับการดูแลแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ทหาร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้กับแรงงานต่างด้าว ซึ่งรวมถึงการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย เพียงแต่มีสื่อประเทศบางแห่งยังมีความเข้าใจผิด จึงเป็นเรื่องที่ทางการไทยและกัมพูชาต้องไปทำความเข้าใจทุกฝ่ายให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง  

ส่วนข่าวที่ว่ามีชาวกัมพูชา 6 คน ถูกสังหารที่ จ.ปราจีนบุรี  นายเสข กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบข่าวและข้อมูลต่างๆให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะขณะนี้ยังมีข่าวจำนวนมากที่สร้างความสับสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(19 มิ.ย.) นางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้เดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศ โดยได้หารือกับนายณรงค์ ศศิธร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสอบถามถึงความชัดเจนของทางการไทยในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในไทยในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลความปลอดภัยของแรงงานชาวกัมพูชาในไทย

ทั้งนี้คาดว่าการเข้าหารือดังกล่าวอาจสืบเนื่องจากขณะนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาทยอยกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง ขณะที่ทางการไทยโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กำลังดำเนินการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบและกระบวนการทางกฏหมาย รวมถึงให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของภาคธุรกิจ