posttoday

มาร์คยก2เหตุการณ์ใช้นายกฯคนกลางฝ่าวิกฤตการเมือง

11 พฤษภาคม 2557

อภิสิทธิ์ยก 2 เหตุการณ์ พฤษภาคม ปี 35 และ อิตาลี ปี 54 ใช้นายกฯคนกลางแก้ไขวิกฤตการเมืองประเทศ ถามนักเลือกตั้งพร้อมเปิดทางให้ประเทศหรือไม่

อภิสิทธิ์ยก 2 เหตุการณ์ พฤษภาคม ปี 35 และ อิตาลี ปี 54 ใช้นายกฯคนกลางแก้ไขวิกฤตการเมืองประเทศ ถามนักเลือกตั้งพร้อมเปิดทางให้ประเทศหรือไม่

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นถึงการตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง โดยมีเนื้อหาดังนี้

วีรบุรุษประชาธิปไตยกับนายกฯจากการเลือกตั้ง

ในขณะที่หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นทางออกของประเทศว่าน่าจะต้องมีรัฐบาลเฉพาะกาลหรือนายกฯคนกลาง เสียงคัดค้านจากฝ่ายรัฐบาลและนปช.จะตอบโต้ว่านายกฯที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่เป็นประชาธิปไตย

ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตทั้งในประเทศและในต่างประเทศ

เหตุการณ์แรก คือวันที่คนไทยออกมาต่อสู้ให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ.2535

หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และพลเอกสุจินดา ลาออกจากนายกรัฐมนตรี ระหว่างมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง

เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเคยเป็นผู้สนับสนุนพลเอกสุจินดา ก็หันมาสนับสนุนพลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ให้เป็นนายกรัฐมนตรีท่ามกลางเสียงคัดค้านจากประชาชนที่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

วันนั้น ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่าทางตัน ด้วยการทูลเกล้าเสนอชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส.ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เข้ามาสะสางปัญหาจากเหตุการณ์ความไม่สงบและยุบสภาเมื่อรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้

วิกฤตจึงคลี่คลายลง ดร.อาทิตย์ได้รับการขนานนามว่าเป็น"วีรบุรุษประชาธิปไตย" ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง ทั้งๆที่ท่านเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

มาดูอิตาลี เมื่อปี พ.ศ.2554 บ้าง

ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางการเมือง หลังจากนายเบอร์ลุสโคนีลาออก ประธานาธิบดีอิตาลีได้แต่งตั้งนายมาริโอ มอนติ ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. มาเป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาหลังจากหารือกับพรรคการเมืองทุกพรรค นายมอนติได้แต่งตั้งครม.ที่ปลอดนักการเมืองมาคลี่คลายปัญหาต่างๆ แล้วจึงลาออกและมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ.2556

ไม่มีใครบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นประชาธิปไตย

ยกทั้งสองเหตุการณ์นี้ขึ้นมาไม่ได้หักล้างหลักการว่า ในระบอบประชาธิปไตย นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง

ผมยังสนับสนุนหลักการดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า ในสถานการณ์วิกฤต เพื่อมาคลี่คลายสถานการณ์ในระยะเวลาสั้นๆ หรือเมื่อพรรคการเมืองทั้งหลายยินยอมพร้อมใจ นายกฯคนกลางอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพื่อเดินหน้าประเทศและรักษาประชาธิปไตยได้ นำบ้านเมืองไปสู่การเลือกตั้งที่เรียบร้อย ให้ประชาชนมั่นใจว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งจะนำพาประเทศไปสู่ความสงบ ทำงานให้ประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน

วันนี้จึงต้องถามนักเลือกตั้งไทยว่า พร้อมจะเปิดทางให้ประเทศหรือไม่ หรือจะอ้างประชาธิปไตยบังหน้ารักษาอำนาจตัวเองต่อไป