posttoday

"มาร์ค"เสนอ9ข้อขอนายกฯลาออกเปิดทางรบ.เฉพาะกาล

03 พฤษภาคม 2557

อภิสิทธิ์ เปิดแผนทางออกประเทศไทย 9 ข้อ ชะลอเลือกตั้ง ให้นายก-ครม.ลาออก เปิดทางตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล-สภาปฏิรูป

อภิสิทธิ์ เปิดแผนทางออกประเทศไทย  9 ข้อ ชะลอเลือกตั้ง ให้นายก-ครม.ลาออก  เปิดทางตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล-สภาปฏิรูป

เวลา 10.15 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ รร.สุโกศล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีนะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงแผนทางออกประเทศ  ว่า ขออนุญาตเรียนพี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนที่เคารพทุกท่านครับ เมื่อสิบวันที่แล้วตนได้สื่อสารกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  ว่าผมได้ติดตามและเฝ้าดูสถานการณ์ของบ้านเมืองและตัดสินใจว่าผมอยู่เฉยไม่ได้ ผมเห็นสภาพปัญหาที่ประชาชน ต้องเดือดร้อน เพราะสภาพการเมืองไทยที่ไม่มีทางออกและเห็นแนวโน้มรับทราบถึงความกังวลของคนไทยทุกคนกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น จึงได้ประกาศตัวว่าจะเดินหน้าในการเสนอทางออกและหาคำตอบให้กับประเทศ

สิบวันที่ผ่านมา ผมยังมองเห็นว่าสภาพบ้านเมือง สภาพความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ดำรงอยู่เหมือนเดิม มีพี่น้องชาวนา ฆ่าตัวตายจากการที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวเพิ่มขึ้น ค่าไฟขึ้น ค่าแก๊สขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ คดีความทั้งหลายที่สังคมใจจดใจจ่อว่าจะยุติอย่างไรและจะส่งผลอย่างไรต่อประเทศชาติ  รัฐบาลก็ประกาศเดินหน้าบอกว่าจะเร่งกำหนดวันเลือกตั้ง โดยจะเร่งกำหนดวันอนุมัติพรฏ.ที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง กลุ่มมวลชนต่างๆก็ประกาศว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ในอีกหนึ่งถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า

สิ่งที่ผมทำทั้งหมดผมได้อธิบายหลักการมาแล้ว ข้อเสนอวันนี้ที่ผมเรียกว่าเป็นแผนเดินหน้าปท.ไทย ทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยง สามอย่าง 1. หลีกเลี่ยงความสุญเสียของชีวิตปชช.เพิ่มเติม จากความขัดแย้งที่สะสมมา 2. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นไปตามรธน. คือหลีกเลี่ยงการปฏิวัติรัฐประหาร 3.หลีกเลี่ยงไม่ให้สังคมไทยดึงเอาสถาบันที่อยู่เหนือการเมืองมาอยู่ในวังวนความขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 10 วันของการทำงานของขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ให้เข้าพบ แลกเปลี่ยนนความคิดเห็นขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจ ให้ข้อคิดเห็น และสิ่งที่ได้แลกเปลี่ยนจะอยู่กับแผนที่จะได้นำเสนอในวันนี้ เช่น พบกลุ่มเครือข่ายเดินหน้าปฎิรูปประเทศทำให้ผมมั่นใจว่ามีกลุ่มคนที่พร้อมเดินหน้าปฏิรูปประเทศโดยไม่ติดกับการเมือง การพบ ผบ.สส.ท่านก็ยืนยันความกังวลของผมว่าถ้าไม่มีใครทำอะไรปัญหาจะนำไปสู่ความรุนแรง และสมควรให้ฝ่ายการเมืองมาหาทางออกทางการเมือง ขอบคุณกกต. ที่ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การเลือกตั้งที่ดำเนินการไปในบรรยากาศอย่างนี้ยากที่จะประสบความสำเร็จ ขอบคุณพรรคการเมืองที่ได้ไปพบ ที่ทุกพรรคบอกว่าถ้าจัดเลือกตั้งให้เรียบร้อยได้แม้การเลือกตั้งจะช้าไปนิดก็ไม่ติดใจ

ฉะนั้นแผนที่จะนำเสนอในวันนี้ ขอสรุปเบื้องต้นก่อนว่าถ้าทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอหรือแผนของผม ประเทศจะสามารถเดินหน้าปฏิรูปได้ทันที เป็นการปฏิรูปที่ไม่มีปัญหาในเชิงข้อกฎหมาย ดำเนินการได้ต่อเนื่อง และการปฏิรูปหลักๆจะเสร็จสิ้นได้ภายใน 1 ปีครึ่ง และภายในเวลา 150-180 วันจะมีการเลือกตั้งที่สุจริต เสรี เที่ยงธรรมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ และถ้ายอมรับแผนนี้ก็จะมีรัฐบาลกลาง มีรัฐบาลเฉพาะกิจหลังการเลือกตั้ง

สิ่งที่จะต้องดำเนินการสิ่งแรก คือขจัดเงื่อนไขใดๆที่จะเป็นอุปสรรค คือ

1. ชะลอการตราพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งที่รัฐบาลตั้งใจจะทำในวันที่ 6 หรือ 8 พ.ค.ที่จะถึงนี้

2. กกต.ต้องใช้เวลาช่วงนี้ไปดำเนินการปฏิรูปบริหารการจัดการเลือกตั้ง ด้วยการใช้อำนาจที่กกต.มีออกระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆในเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง การลงโทษผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ระเบียบนี้จะเป็นหัวใจในการทำให้แผนนี้ประสบความสำเร็จ

3. เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปร่วมกับกปปส.ใช้เวลา 15-30 วันทำข้อเสนอในเรื่ององค์กรที่เรียกว่าสภาปฏิรูป กำหนดหลักเกณฑ์ กรอบเวลาในเรื่องการปฏิรูปให้ชัด และกำหนดแนวทางให้ประชาชนในฝ่ายต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมกับการปฏิรูปได้อย่างไร

4. นำข้อเสนอไปจัดทำประชามติ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะใช้เวลา 90 วันเพื่อให้ประชาชนเห็นชอบกระบวนการปฏิรูป ให้การปฏิรูปมีความชอบธรรมตามกระบวนการประชาธิปไตย และเพื่อมีผลผูกมัดว่าจะต้องไม่ฝืนมติประชาชนในการที่จะต้องมีการปฏิรูป

5. นอกจากการปฏิรูปจะได้รับการสร้างความชอบธรรมจากกระบวนการประชามติแล้ว กระบวนการประชามติ 90 วันจะพิสูจน์ความจริงใจของทุกพรรคการเมืองที่ต้องรณรงค์ให้เกิดการปฏิรูป พรรคการเมืองทุกพรรคสามารถออกไปรณรงค์เกี่ยวกับการปฏิรูปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่มีการขัดขวาง ไม่มีความรุนแรง

6. จำเป็นต้องมีรัฐบาลเฉพาะกาลคนกลางที่เกิดจากการยอมรับทุกฝ่าย มาบริหารการจัดทำประชามติ การปฏิรูป และการเลือกตั้ง ผมเสนอว่ารัฐบาลนี้จะเกิดได้ โดยนายกฯจะต้องนำครม.ลาออกจากตำแหน่ง หรือในกรณีที่ครม.อาจไม่ลาออกจากตำแหน่ง นายกฯสามารถปรับครม.ออกจากตำแหน่งแล้วตัวเองลาออกตาม เป็นการดำเนินการเพื่อเปิดทางไปสู่การมีรัฐบาลคนกลาง ที่มาจากการสรรหานายกฯและครม.ที่ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ดำเนินการ ประธานวุฒิฯต้องให้ความมั่นใจว่าจะสรรหานายกฯและครม.ที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ รวมถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน และกปปส.ยอมรับได้

7. จำกัดบทบาทของรัฐบาลเฉพาะกาลที่ตั้งขึ้นให้ชัดเจน ไม่มีอำนาจตรากฎหมาย แต่มีความคล่องตัวกว่ารัฐบาลปัจจุบัน เพราะไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับมาตรา 181

8. เมื่อมีการจัดทำประชามติเรียบร้อย กระบวนการปฏิรูปเดินหน้า ก็จัดให้มีการเลือกตั้ง โดยทุกพรรคการเมืองต้องยืนยันว่าจะสนับสนุนการทำงานของสภาปฏิรูปหลังการเลือกตั้ง หากไม่ทำระเบียบที่กกต.ออกก่อนหน้านี้ จะถือว่าเป็นการหลอกลวง ทำผิด โทษคือเพิกถอนสิทธิ์ เลือกตั้ง และยุบพรรค

9. เมื่อเลือกตั้งเสร็จ รัฐบาลนี้มีอำนาจบริหารแผ่นดินตามปกติ แต่ถูกผูกมัดให้ดำเนินการตามการปฏิรูป แล้วจึงจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่แล้วก็เข้าสู่สภาวะปกติที่เรามีการเมืองหลังการปฎิรูป

ผมคิดว่าข้อเสนอของผม ประเทศได้ 100% ได้ทั้งปฏิรูป เลือกตั้ง ไม่มีปฎิวัติรัฐประหาร ไม่มีนองเลือด ปัญหาต่างถูกแก้ไขได้คล่องตัวมากขึ้น ข้อเสนอนี้ผมดึงจุดร่วมมาเป็นข้อเสนอเพื่อประเทศไทยจริงๆ และ 2 วันที่แล้วผมก็ประกาศแล้วว่าการเดินตามแผนนี้ ผมเป็นแค่ประชาชนคนหนึ่ง ไม่มีโอกาสไปรับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น ถ้าจะได้ก็ได้ความสุขจากที่ประเทศสงบลงและประเทศเดินหน้าได้

ผมจะนำเสนอข้อเสนอนี้ที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้รัฐบาลและกปปส.ในวันอังคารที่ 6 พ.ค.นี้ และขอให้พิจารณาข้อเสนอของผมให้ละเอียด ในส่วนของรัฐบาลผมจะฟังการตัดสินใจของคุณยิ่งลักษณ์ คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว เพราะคนยิ่งลักษณ์เป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ผมถือโอกาสนี้สื่อถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า ข้อเสนอของผมมีตรงไหนที่เสียหายตอ่ประเทศชาติ อยากถามว่าในฐานะที่เป็นนักการเมือง คุณยิ่งลักษณ์ต้องการให้ประเทศเดินหน้าหรือไม่ สิ่งเดียวที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องสละในขณะนี้ ตามแผนของผมคือการถอยออกไปจากอำนาจ 5-6 เดือน โดยที่คุณยิ่งลักษณ์ก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าสถานภาพของคุณยิ่งลักษณ์ แขวนในความไม่แน่นอน และไม่สามารถทำงานเต็มที่ได้อยู่แล้ว ผมอยากถามคุณยิ่งลักษณ์ว่าคุณยิ่งลักษณ์จะถอยไป 5-6 เดือนได้หรือไม่

ผมถือโอกาสนี้สื่อสารไปถึงคุณสุเทพ ถ้ารัฐบาลตอบรับตรงนี้ จะเห็นภาพรัฐบาลกลาง เป็นเป้าหมายของการต่อสู้อยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการอาจจะต่าง อย่าเพิ่งปฎิเสธข้อเสนอผม ถ้ารัฐบาลรับหลักการตรงนี้ ท่านกับมวลมหาประชาชนก็ไปพิจารณาว่าจะเดินหน้าไปด้วยกันอย่างนี้หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผมผ่าน 10 วันมานี้ท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์ เสียงค่อนขอดกระแนะกระแหน ผมไม่ติดใจ เพราะผมถือว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง แต่อยากให้คนไทยถามใจตัวเองว่าคิดหรือว่าประเทศไทยจะเดินหน้าได้บนความขัดแย้งและเอาชนะกันไม่จบไม่สิ้น หรือเราจะคิดว่าจะสร้างบ้านเมืองได้บนความเกลียดชัง ผมเจอคนมา 10 วัน เขาบอกว่าเขาเห็นกับผมว่าบ้านเมืองต้องเดินบนจุดร่วม บนแนวทางที่คนไทยทุกคนมาเป็นหนึ่งเดียว แต่ผมก็เรียกร้องว่าสื่อมวลชน นักวิชาการ ประชาชนไม่ว่าจะนับตัวเองอยู่ฝ่ายไหนหรือไม่อยู่ฝ่ายใดเลย และเห็นว่าสิ่งที่ผมเสนอเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ท่านต้องออกมาพูด ผมทราบตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ว่าจะประสบความสำเร็จเป็นเรื่องยากมาก แต่ผมก็มีความหวังเสมอ และเชื่อว่าสิ่งที่ทำวันนี้ไม่สูญเปล่า