posttoday

ปณิธานชี้กปปส.เดินขบวนใหญ่สะท้อนสำเร็จ3ด้าน

30 มีนาคม 2557

ปณิธานระบุ กปปส.เดินขบวนใหญ่สะท้อนความสำเร็จ 3 ด้าน พลังมวลชนไม่หาย-เกิดการคานอำนาจ-เหตุป่วนลดลง

ปณิธานระบุ กปปส.เดินขบวนใหญ่สะท้อนความสำเร็จ 3 ด้าน พลังมวลชนไม่หาย-เกิดการคานอำนาจ-เหตุป่วนลดลง

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายปณิธาน วัฒนายากร คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนใหญ่ของกลุ่มกปปส. เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ว่า การเดินขบวนครั้งนี้สามารถจำแนกความสำเร็จของ กปปส.ออกเป็น 3 ประเด็น ได้แก่ 1.เป็นการยืนยันว่าพลังของประชาชนที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หายไปไหนเลย แม้ว่าก่อนหน้านี้อาจมีการเปลี่ยนรูปแบบและลดจำนวนลงบ้าง แต่เมื่อมีการระดมพลครั้งใหญ่ก็ยังคงปรากฏตัวขึ้นอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ หากรัฐบาลหรือฝ่ายการเมืองยังไม่มีการตอบสนองต่อพลังกลุ่มนี้ ก็คงไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตครั้งนี้ไปได้ นั่นเพราะแม้ว่า กปปส.จะยุติบทบาทลง ก็จะมีคนกลุ่มใหม่ที่มีเป้าหมายเดิมออกมาเคลื่อนไหวต่อ

2.ทำให้เกิดความสมดุลและเป็นการคานอำนาจของมวลชน กล่าวคือก่อนหน้านี้ กปปส.ได้ลดระดับการชุมนุมเชิงรุกและกลับที่ตั้งเพื่อจัดเสวนาปฏิรูปประเทศไทย นั่นทำให้มวลชนคนเสื้อแดงที่มีแนวทางเข้มข้นได้แสดงออก เช่น การบุกยึดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงองค์กรอิสระอื่นๆ และศาลยุติธรรม แต่เมื่อ กปปส.ประกาศเคลื่อนขบวนใหญ่ ผลพวงที่เกิดขึ้นคือทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าวต้องกลับที่ตั้ง และต้องทบทวนแนวทางการเคลื่อนไหวใหม่

3.การใช้อาวุธสงครามและการข่มขู่ถือว่าลดระดับลง แม้ว่าอาจเกิดเหตุป่วนระหว่างเคลื่อนขบวนแต่ก็น้อยลงกว่าที่หลายฝ่ายคาดหมาย นั่นอาจเป็นเพราะมีการจับกุมบุคคลที่เตรียมก่อเหตุได้บริเวณ ป.ป.ช. ซึ่งถือว่าสามารถยับยั้งความรุนแรงได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของ กปปส.แม้พลังจะไม่ลดลง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจนสามารถทำให้ชนะเบ็ดเสร็จ ในขณะที่รัฐบาลก็ยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ด้วยตัวเองได้ หนำซ้ำยังมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มได้เคลื่อนเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อแสดงออกถึงการสกัดกั้นไม่ให้รัฐบาลทำงานได้

"ที่สุดแล้ว ทิศทางหลังจากนี้น้ำหนักจึงยังอยู่ที่การหาคนกลางเป็นผู้นำให้เกิดการเจรจาทางการเมือง ส่วนตัวเชื่อว่าเสียงเรียกร้องเช่นนี้จะดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน"นายปณิธานกล่าว