posttoday

โพลหนุน"อานันท์"นายกฯคนกลาง

29 มีนาคม 2557

ดุสิตโพล หนุน "อานันท์ ปันยารชุน" นั่งนายกฯคนกลางแก้ขัดแย้ง แต่ไม่แน่ใจว่ามีนายกฯคนกลางแล้วทำให้การเมืองไทยดีขึ้นหรือไม่

ดุสิตโพล หนุน "อานันท์ ปันยารชุน" นั่งนายกฯคนกลางแก้ขัดแย้ง แต่ไม่แน่ใจว่ามีนายกฯคนกลางแล้วทำให้การเมืองไทยดีขึ้นหรือไม่

จากกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอให้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางขึ้นมา เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้นั้น ทั้งนี้มีการเปิดโผรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คนกลาง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกมาอ้างว่ามีรายชื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯคนกลางด้วย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชน ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,118 คน ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม 2557 สรุปผลได้ ดังนี้

 เมื่อถามว่า ประชาชนคิดอย่างไร? กับกระแสข่าว “นายกฯคนกลาง” อันดับ 1 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะได้ผล อาจช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน 47.47% อันดับ 2 นายกฯควรมาจากการเลือกตั้ง เคารพการตัดสินใจของประชาชน 22.90% อันดับ 3 อาจเป็นเพียงข่าวลือ หรือต้องการสร้างกระแสทางการเมือง 12.12% อันดับ 4 ยังไม่รู้รายละเอียดข้อเท็จจริง ไม่รู้หลักเกณฑ์ในการพิจารณานายกฯคนกลาง  9.43% อันดับ 5 น่าจะเป็นไปได้ยาก อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น   8.08%

เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนคิดว่าจำเป็นหรือไม่? ที่จะมี “นายกฯคนกลาง” อันดับ 1 จำเป็น 36.23%เพราะ อาจช่วยให้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าจะได้ผล ฯลฯ อันดับ 2 ไม่แน่ใจ  32.85 %เพราะ ต้องดูก่อนว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกฯคนกลาง สถานการณ์บ้านเมืองมีความขัดแย้งมานานแก้ไขได้ยาก ฯลฯ อันดับ 3 ไม่จำเป็น 30.92%เพราะ ถึงจะมีนายกฯกลางบ้านเมืองก็ยังคงวุ่นวาย ต่างฝ่ายต่างเห็นแก่ผลประโยชน์ นายกฯควรมาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ

เมื่อถามว่า ใคร? ควรจะเป็น “นายกฯคนกลาง” อันดับ 1 อานันท์ ปันยารชุน 40.55% อันดับ 2 พลากร สุวรรณรัฐ 37.01% อันดับ 3 อาสา สารสิน 35.43% อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 35.04%

เมื่อถามว่า ถ้ามี “นายกฯคนกลาง” จะทำให้การเมืองไทยดีขึ้นหรือไม่? อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 34.30%เพราะ ยังไม่รู้ว่านายกฯคนกลางจะเป็นใคร และจะได้รับการยอมรับหรือไม่ ไม่มีข้อมูลมากพอ ฯลฯ อันดับ 2 ดีขึ้น 27.05%เพราะ อาจช่วยให้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย มีผู้นำที่เป็นกลาง ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ฯลฯ อันดับ 3 เหมือนเดิม 24.40%เพราะ นักการเมืองยังคงเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ ความขัดแย้งมีมานานไม่น่าจะแก้ไขได้ ฯลฯ อันดับ 4 แย่ลง 14.25%เพราะ คนบางกลุ่มอาจไม่ยอมรับ ต่อต้าน คัดค้าน เคลื่อนไหว ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ