posttoday

ปชป.ยังไม่เคาะลงเลือกตั้งหรือไม่

29 มีนาคม 2557

ประชุมใหญ่ปชป.ยังไม่เคาะลงเลือกตั้งหรือไม่ สมาชิกภาคเหนือ แย้ง มีงบน้อย ด้อยประชาสัมพันธ์ ลงสู้ศึกไปก็แพ้

ประชุมใหญ่ปชป.ยังไม่เคาะลงเลือกตั้งหรือไม่ สมาชิกภาคเหนือ แย้ง มีงบน้อย ด้อยประชาสัมพันธ์  ลงสู้ศึกไปก็แพ้

วันที่ 29 มี.ค. เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 โดยมีแกนนำพรรค คณะกรรมการคณะต่างๆของพรรค อดีตส.ส. ประธานสาขาพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมการประชุม ซึ่งบรรยากาศงานโดยรวมเป็นไปอย่างราบเรียบ ไม่คึกคักมากเท่าที่ควร ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานเนื่องจากยังคงพักรักษาตัวภายหลังเข้ารับการผ่าตัดรักกษาอาการไหปลาร้าขวาหัก จึงมอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุมในวันนี้(29 มี.ค.) โดยนายจุรินทร์ กล่าวรายงานการดำเนินกิจกรรมต่างๆของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา การรับรองงบการเงิน ตามข้อบังคับพรรคข้อ 119 การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีพรรค และการพิจารณาแผนการใช้เงิน

ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีรายรับในรอบปี 2556 จำนวน 120,903,818.05 บาท โดยมีส่วนที่มาจากการบริจาคภาษีของพรรค เพิ่มขึ้นเป็น 11,342,480 ล้านบาท สำหรับจำนวนสมาชิกพรรคขณะนี้มีประมาณ 2.89 ล้านคน โดยมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 10,490 คน แต่พบว่าหลายพื้นที่มีการขยายตัวเพิ่มสมาชิกพรรคน้อยมาก ไม่เว้นแม้แต่ภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค พรรคจึงจะต้องเน้นงานสมาชิกสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งเราคาดหวังว่าจะทำให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 คน ดังนั้น แผนการดำเนินงานของพรรค ประจำปี 2558 จะมีทั้งการอบรมสัมมนาสมาชิกพรรคและยุวประชาธิปัตย์มากขึ้น การดำเนินโครงการ"สมัชชาประชาชน ประชาธิปัตย์" เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองกับพรรคในการจัดทำนโยบายและปฏิรูประเทศไทย การทำโครงการ"แฟนพันธุ์แท้"หรือ "คืนสู่เหย้า"ที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ใช้ในการเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่ายของพรรค สมาชิกพรรค และบุคคลทั่วไป การจัดตั้งคณะกรรมการการเมืองประจำกลุ่มจังหวัด รวมถึงจะมีการจัดงานต่างๆเพื่อการหารายได้เข้าพรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธานในที่ประชุม ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมประชุม อภิปรายก่อนการลงมติรับรองแผนการดำเนินงานของพรรค ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์จาก จ.เชียงราย แสดงความคิดเห็นว่า แนวนโยบายของพรรคยังเป็นนามธรรม และการตั้งงบประมาณเพียง 130 ล้านบาทอาจไม่เพียงพอในการลงแข่งขันในการเลือกตั้ง เพราะอย่างในยุทธศาสตร์สาขาพรรคเข้มแข็งนั้น ตนในฐานะผู้ปฏิบัติพบว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่ดำเนินยุทธศาสตร์นี้ สาขาพรรคกลับลดลง รายจ่ายในแต่ละปีก็ต้องหาเอง ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนการเลือกตั้งก็เชื่อว่าหากเราใช้งบประมาณสัก 1,000 ล้านบาท แล้วชูนโยบายปฏิรูป 7 ข้อ ก็เชื่อว่าจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน

ขณะที่ ตัวแทนสาขาพรรคจาก จ.เชียงใหม่ อภิปรายว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีจุดอ่อนเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้พรรคเพิ่มงบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะเหตุใดโครงการ 30 บาทรักษาที่โรคของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถึงได้รับความนิยมกว่าโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรคของรัฐบาลปชป.อยากถามว่าพรรคขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่ รวมถึงบางโครงการประชาชนก็ไม่รู้ว่า ประชาธิปัตย์ เป็นผู้ริเริ่ม

ด้านนายจุติ กล่าวชี้แจงว่า การตั้งงบประมาณ 130 ล้านบาทนั้น เป็นเพราะพิจารณาตามสถานะของพรรคและผู้สนับสนุนเป็นสำคัญ อีกทั้ง แม้ตอนนี้เรายังไม่มีส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร แต่อดีตส.ส.ของพรรคยังคงให้การช่วยเหลือด้านการเงินแก่พรรค อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้บริจาคให้กับพรรคเป็นจำนวน 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขออย่ามองว่าการเสนอเงินเท่านี้แล้วพรรคจะไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้พรรคมีแผนจัดงานระดมทุน ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ และตนมีการเดินสายพบปะผู้สนับสนุนของพรรคทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วง 2-3 สัปดาห์นี้คงต้องพักการดำเนินการดังกล่าวชั่วคราว เนื่องจากนายอภิสิทธิิ์ต้องพักษารักษาตัว

นายจุติ กล่าวว่า สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้น พรรคประชาธิปัตย์ทำมาตลอด ซึ่งเราดำเนินการตามงบประมาณที่เรามี โดยใช้เงินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ พรรคได้รื้อฟื้นการจัดทำวารสารของพรรค โดยมีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นผูัรับผิดชอบ ซึ่งเป็นการจัดทำฉบับออนไลน์เท่านัั้นเพราะขณะนี้โลกโซเชียลมีเดียไปไกลมาก และที่ผ่านมาพบว่าสื่อของพรรคในโลกออนไลน์มีคนเข้าไปอ่านจำนวนมากกว่าแบบที่เป็นเอกสารสิ่งพิมพ์ โดยเราจะมีการเปิดตัววารสารพรรคฉบับออนไลน์ 3 ฉบับ ในวันที่ 6 เม.ย.นี้ซึ่งเป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์

ภายหลังจากการหารือกว่า 2 ชั่วโมง ประธานการประชุมจึงสั่งปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ของพรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 11.00 น.