posttoday

นายกฯลั่น12พ.ค.แดงต้องยุติ

11 พฤษภาคม 2553

นายกฯขีดเส้นตายเสื้อแดงต้องยุติชุมนุมภายใน12พ.ค.นี้ ย้ำไม่มีการต่อรองอีกเพราะให้โอกาสมาเยอะแล้ว ชี้รัฐบาลมีความชอบธรรมขอคืนพี้นที่

นายกฯขีดเส้นตายเสื้อแดงต้องยุติชุมนุมภายใน12พ.ค.นี้ ย้ำไม่มีการต่อรองอีกเพราะให้โอกาสมาเยอะแล้ว ชี้รัฐบาลมีความชอบธรรมขอคืนพี้นที่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมสภาถึงการดำเนินการตามแผนปรองดองว่า อยากย้ำว่า ตั้งแต่ที่ตนประกาศแผนปรองดองมา ได้พูดตั้งแต่ต้นว่าไม่มีการเจรจาต่อรองอะไร หลายเรื่องซึ่งผู้ชุมนุมพูดมา มีคำตอบอยู่ในแผนอยู่แล้ว เช่นเรื่องพีทีวี ตนก็บอกตั้งแต่ต้นว่าชัดเจนอยู่แล้วว่ามีกลไกดูแลก่อนว่าเรื่องการใช้สื่อในลักษณะที่กระทบต่อความปรองดอง สร้างความเกลียดชังปลุกระดม เราต้องมีกลไกที่ชัดก่อนที่จะให้ฝ่ายต่างๆดำเนินการไปได้ แล้วเรื่องที่มาพูดเรื่องเงื่อนไข ที่ว่า ให้รองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือตนไปมอบตัว เพราะตนบอกแล้วว่าในเหตุการณ์ เรามีคณะกรรมการอิสระเข้ามาสอบสวนเหตุการณ์ แต่กรณีที่นายสุเทพ เดินทางไปดีเอสไอเมื่อเช้าที่ผ่านมา ท่านไม่ได้ไปมอบตัว ท่านต้องการแสดงเจตนาว่าฝ่ายรัฐบาลพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
         
“วันนี้จะให้รองฯ สุเทพไปมอบตัวที่ไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีหมายจับที่ไหน เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็น ๆอยู่ที่ว่า ผู้ชุมนุมอยากจะเข้ากระบวนการปรองดอง ตอบรับเข้าสู่กระบวนการ เข้าสู่เงื่อนไขวันเลือกตั้งไม่ได้ ต้องเลิกการชุมนุม ๆ เพราะฉะนั้นเอาประเด็นเล็กประเด็นน้อยขึ้นมามันไม่จบเพราะรัฐบาลไม่มีต่อรอง รับก็รับ ไม่รับก็ไม่รับ แล้วรับหรือไม่รับให้ตอบด้วยการกระทำ เวลานี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนมากพอแล้ว ความอดทนของประชาชนกลุ่มอื่นๆก็ลดลงมาก ความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งในพื้นที่การชุมนุมและนอกพื้นที่การชุมนุมก็มีมากทุกวัน ไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลยที่จะมายื้อเวลาในลักษณะอย่างนี้ ผมคิดว่า ถ้าไม่ตอบรับก็บอกมาเลย ว่าไม่ตอบรับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยัน
         
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมตอบรับแผนปรองดองแต่ยื้อเวลา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีแล้วครับ ตนถือว่า การไม่ยุติการชุมนุม คือการไม่ตอบรับ และวันนี้ครม.มีการรับทราบสถานการณ์และรับทราบความจำเป็นของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดำเนินมาตรการต่อไปซึ่งต้องกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ไม่เฉพาะผู้ชุมนุม แต่คนที่ทำงาน ผู้อยู่อาศัย เราเตรียมแผน และต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนว่าอาจจะต้องได้รับความเดือดร้อนมากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ และจำเป็นต้องเตือนทุกฝ่ายคือ
         
“สิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อคืนความเป็นปกติให้กับสังคมนั้นต้องทำอย่างเร่งด่วน อยากให้ผู้ชุมนุมแสดงออกเสียเลย พรุ่งนี้ก็กลับบ้านกันเสีย ถ้ามีความจริงใจกับกระบวนการปรองดอง เพราะแผนการปรองดองผมเดือนหน้าทุกเรื่องวันนี้ครม. อนุมัติกรอบการทำสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย มีการอนุมัติงบประมาณให้ทางสภาพัฒนฯ ในนามมูลนิธิเข้าไปดำเนินการ แผนเรื่องสื่อก็หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แผนด้านการเมืองก็ให้สถาบันพระปกเกล้าฯเข้ามามีบทบาท ทุกเรื่องเดินไปข้างหน้าทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขอให้ยุติการชุมนุมซะ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
         
เมื่อถามว่า การตัดสินใจของภาครัฐในการเข้าไปจัดการพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนถือว่าภาครัฐมีความชอบธรรมทุกประการมีความจำเป็นในการให้เกิดความมั่นคงเป็นปกติ เมื่อถามว่า สิ่งที่นายกฯระบุหมายถึงการสลายการชุมนุมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันคงจะเริ่มจากมาตรการจะต้องกระทบกระเทือนต่อพื้นที่ เมื่อถามว่า อย่างไรที่บอกว่าประชาชนจะเดือดร้อนสักระยะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การใช้ชีวิตข้างในที่ชุมนุม ต้องมีการดำเนินมาตรการหลายอย่าง ทางศอฉ.จะเป็นผู้แถลง
         
เมื่อถามว่า วันนี้มั่นใจว่าการดำเนินการของรัฐจะเข้าไปคุมสถานการณ์ในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงเตรียมการมาโดยตลอด แต่ฝ่ายผู้ชุมนุมได้ใช้เวลามามากกว่า 1 สัปดาห์ในการตอบรับแผนปรองดอง ถือว่าแผนปรองดอง5 ข้อต้องเดินต่อ ๆ แต่เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบก็กระทบต่อการเลือกตั้ง ควรจะกลับบ้านภายในวันพรุ่งนี้ เมื่อถามว่า หากปฏิบัติการต้องเกิดความสูญเสียตามมา นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามใดๆ พร้อมเดินขึ้นรถไปในทันที
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ มีสีหน้ามุ่งมั่น และจริงจังมาก โดยมีผู้สื่อข่าวบางส่วนที่เดินทางออกจากรัฐสภาออกไปแล้วนั้น ต้องเดินทางกลับมาเนื่องจากนาย ศิริโชค โสภา เลขานุการส่วนตัวนายกฯ เป็นคนโทรแจ้งว่านายกฯ จะให้สัมภาษณ์หลังการประชุมสภา ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนจนทำให้ผู้สื่อข่าวต่างทยอยเดินทางกลับเข้ามาในสภาอีกครั้ง.