หมอวรงค์บุกพาณิชย์ให้กำลังใจชาวนา

“หมอวรงค์”บุกพาณิชย์ให้กำลังใจชาวนาจี้รัฐบาลเร่งขายข้าวใช้หนี้เชื่อป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับ“ยิ่งลักษณ์”ไม่เกิน1เดือน

ที่กระทรวงพาณิชย์ นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มชาวนาที่ชุมนุมอยู่ภายในกระทรวง ซึ่งกลุ่มชาวนาร้องตะโกนต้อนรับด้วยความยินดี โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาให้กำลังใจชาวนา ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะรัฐบาลติดหนี้ค่าข้าว และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต๊อก นำเงินมาใช้หนี้คืนโดยเร็ว เพราะไม่มีวิธีการอื่นที่จะหาเงินจำนวนเป็นแสนล้านได้อีกแล้ว โดยเฉพาะไม่มีสถาบันการเงินใดยอมให้รัฐบาลกู้เงิน ที่สำคัญ ขณะนี้ สังคมรู้แล้วว่า การที่ธนาคารออมสินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กู้อินเตอร์แบงก์ก็เพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ไม่ใช่เสริมสภาพคล่องอย่างที่เป็นข่าว

“รัฐบาลต้องคืนเงินชาวนา และกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น ภายใน 1 -2 สัปดาห์ ถ้าทำไม่ได้ นายกรัฐมนตรีต้องยอมลาออกแล้ว ปล่อยให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการกู้เงินแทน เพราะรัฐบาลใหม่สามารถดำเนินการได้แล้ว ถ้านายกฯยังไม่ยอมลาออก และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังต่อไป จะยิ่งทำให้ชาวนาเดือดร้อนมากขึ้น แม้ว่าการตั้งรัฐบาลใหม่อาจใช้เวลา แต่น่าจะดีกว่าปล่อยให้นายกฯอยู่ในตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้”

สำหรับการขายข้าวของรัฐบาลชุดนี้นั้น ที่ผ่านมา มีการขายน้อยมาก และด้วยวิธีการฉ้อฉล ทำนิติกรรมอำพราง ส่วนโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ ถือว่าเป็นนโยบายที่ผิดพลาดมาก สร้างความเสียหายให้กับชาวนา และประเทศมหาศาล จนถึงขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ยอมรับว่า โครงการรับจำนำข้าวเสียหาย มีการทุจริตมาก แต่กลับบอกชาวนาว่า ทำให้ชาวนามีความเป็นอยู่ดีขึ้น

นพ.วรงค์ กล่าวต่อถึงการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะทำหนังสือเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 27 ก.พ.นี้ กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดการทุจริต และสร้างความเสียหายต่อประเทศว่า เชื่อมั่นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้าข่ายมีความผิดตามที่ถูกป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาแน่นอน เพราะตนเป็นผู้ให้ข้อมูลต่อป.ป.ช.ถึงการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปให้ปากคำกับป.ป.ช.จริง ก็ไม่น่าจะตอบคำถามต่างๆ ได้ เพราะไม่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้เลย และอย่าอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นการทุจริตต่ในโครงการ โดยเฉพาะการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีนที่ไม่มีจริง เพราะตนมีคลิปยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เกี่ยวข้อง และรู้เห็นด้วย

“น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่าอ้างว่า ไม่รู้เรื่องการทุจริต หรือไม่รู้ว่าโครงการนี้จะมีการทุจริต หรือจะสร้างเสียหายให้ประเทศมากเช่นนี้ เพราะทั้งสตง. (สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน) , ป.ป.ช. เคยทำหนังสือทักท้วงไปแล้วถึง 2 ครั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจถึง 3 ครั้ง แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ยกเลิกโครงการ อย่าอ้างเป็นนโยบายที่แถลงต่อสภาฯแล้วยกเลิกไม่ได้ ทำยกเลิกได้ถ้านโยบายนั้นทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งการไม่ยกเลิกโครงการ เราถือว่า รัฐบาลมีเจตจาจะทุจริต และต้องการรักษาฐานเสียงชาวนา”

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า กระบวนการสืบสวนสอบสวนของป.ป.ช.น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็สามารถชี้มูลได้ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำผิดจนถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้หรือไม่ ซึ่งหากทำผิดจริง และถูกถอดถอนจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องขั้นตอนการส่งอัยการฟ้องศาล คงเป็นเรื่องของศาลที่จะตัดสินความผิดทางแพ่ง และทางอาญาต่อไป แต่เชื่อว่า ไม่นานจะนานนัก โดยเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะถึงขั้นหนีคดีเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอาจต้องหนีออกนอกประเทศ