posttoday

ประเวศเผยทางออกขัดแย้งหนีไม่พ้นเจรจา

10 กุมภาพันธ์ 2557

หมอประเวศระบุทางออกความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล-กปปส.หนีไม่พ้นการเจรจา เพื่อหาจุดร่วมเดินหน้าปฏิรูป ระบุไม่ขอรับตำแหน่งนายกฯคนกลางหากมีคนเสนอให้

หมอประเวศระบุทางออกความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล-กปปส.หนีไม่พ้นการเจรจา เพื่อหาจุดร่วมเดินหน้าปฏิรูป ระบุไม่ขอรับตำแหน่งนายกฯคนกลางหากมีคนเสนอให้

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป ปาฐกถาในงาน “อนาคตประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" จัดขึ้นโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ”ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล และ กปปส. นั้น วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดหนีไม่พ้นการหันหน้ามาเจรจา เพื่อหาจุดร่วมและจุดต่างเพื่อปฏิรูป ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้  ส่วนใครจะเสนอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนกลางให้นั้น ไม่ขอรับตำแหน่ง เนื่องจากไม่ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง และจะสนับสนุนการปฏิรูปการกระจายอำนาจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำอยู่วงนอกเท่านั้น

ทั้งนี้การเติบโตของประเทศ ไม่สามารถดูได้ที่ตัวเลขจีดีพีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าความเหลื่อมล้ำว่าลดลงหรือไม่ เพราะแม้จีดีพีจะขยายตัวมากเพียงใด แต่ถ้าคนในประเทศ ยังไม่มีความกินดีอยู่ดี ก็ไม่ถือว่าเป็นการเติบโตที่ยั่งยืน

วิธีการแก้ปัญหาของไทยอย่างยั่งยืน หนีไม่พ้นการะกระจายอำนาจลงไปสู่ท้องถิ่น ให้ชุมชนบริหารจัดการตัวเองได้ โดยหากยังรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลางเพียงอย่างเดียว ก็จะยิ่งสร้างความแตกแยกมาขึ้น รวมถึงไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปฏิรูปประเทศสามารถทำได้ทันที ไม่ต้องรอเงื่อนไขทางการเมืองเอื้ออำนวย

“ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว คือตัวอย่างหนึ่งของความเหลื่อมล้ำทางสังคม เนื่องจากชุมชนไมได้มีอำนาจในการจัดการทรัพยากร และจัดสรรที่ดินให้กับชุมชนอย่างแท้จริง โดยวิธีแก้ปัญหาในระยะสั้น ควรให้กระทรวงสาธาณรสุขเข้าไปดูแลสภาพจิตใจ หลังจากนั้นรัฐควรนำเงินกองทุนที่มีอยู่ในแต่ละชุมชนมาช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเงินในเบื้องต้น รวมถึงหาเงินมาชดใช้ให้กับเกษตรกรโดยเร็วที่สุด ขณะที่ในระยะยาว รัฐบาลควรเป็นผู้นำในการปฏิรูปที่ดิน รวมถึงจัดสรรที่ดินให้กับชุมชน ครอบครัวละ 1-2 ไร่ โดยให้ชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการด้วยตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าแนวทางนี้จะสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนได้อย่างยั่งยืน” นพ.ประเวศ กล่าว

ด้าน นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลควรประสานงานไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อจัดสรรสินเชื่อเพิ่มเติมให้กับเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว โดยรัฐบาลเป็นผู้อุดหนุนอัตราดอกเบี้ยให้กับชาวนา ขณะเดียวกันอาจต้องใช้งบกลางภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีเยียวยาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยขณะนี้ ชาวนาที่ไม่ได้รับเงินทั้งหมดกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักที่เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาลเอง

ส่วนแนวทางของสภาเกษตรกรแห่งชาติ หลังจากนี้จะเน้นเรื่องการยกร่างแก้ไขการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร การจัดตั้งกองทุนธนาคารที่ดิน รวมถึงแก้ไขกฎหมาย และปัญหาการเงินการคลังที่ไม่เป็นธรรมให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ สภาเกษตรกรเห็นว่า การปฏิรูปการเมืองเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของเกษตรกรควบคู่ไปด้วย

สำหรับข้อมูลในครั้งนี้ ทางสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะรวบรวม เพื่อนำเสนอให้กับรัฐบาลชุดใหม่ใช้ประกอบการพิจารณาการจัดทำนโยบายประเทศ รวมถึงการปฏิรูปประเทศ นอกจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ตามภูมิภาคเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม โดยคาดหวังว่าประชาชนจะเข้าร่วมสัมมนาประมาณ 800-1,000 คน โดยให้ความสำคัญและน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป