ชี้คำสั่งตั้ง"ศรส."ส่อขัดรธน.-ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อดีตรองประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ50 ชี้คำสั่งตั้งศูนย์รักษาความสงบของนายกฯส่อขัดรัฐธรรมนูญ-ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ50ชี้ว่าจากสำเนาคำสั่งตั้งศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.) เห็นลายเซ็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรลงท้ายตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" แทนที่จะลงในตำแหน่งที่ถูกต้องคือรักษาการนายกรัฐมนตรี เห็นว่าคำสั่งนี้มีปัญหาแล้ว เพราะอำนาจต่างกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การเลือกตั้งที่เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมอบอำนาจให้กกต.เข้ามามีบทบาทที่สำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดการมีส่วนได้ส่วนเสียในการเลือกตั้ง

"การมีกลไกพิเศษเช่นนี้ แล้วไปใช้อำนาจตามพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะสร้างปัญหามาก เช่น ออกประกาศห้ามชุมนุมเกิน5คน ห้ามออกจากบ้านหลังหกโมงเย็น ขณะที่ผู้สมัครหาเสียงต้องหาเสียงในช่วงนี้ อีกทั้งใช้กลไกนี้ข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยให้มารายงานตัวทำให้นักการเมืองซีกรัฐบาลได้เปรียบ"นพ.ชูชัยกล่าว

ทั้งนี้ตามมาตรา181(4)ของรธน.50 ระบุชัดเจนว่า ไม่ให้ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อการกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ50 ต้องการให้คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่าที่จำเป็น ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนดซึ่งบางเงื่อนไขต้องผ่านความเห็นชอบจากกกต.ก่อน

ดังนั้นหากมีประกาศออกตามคำสั่งนี้ คำสั่งดังกล่าวไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ยังมีปัญหาเรื่องเหตุผลของการออกคำสั่งนี้ว่าฉุกเฉินและจำเป็นเพียงใด เพราะการใช้เครื่องมือพิเศษนี้ต้องใช้ได้ทันทีเพราะฉุกเฉิน เช่น ใช้ในกรณีการชุมนุมที่ก่อให้เกิดการจราจลเผาบ้านเผาเมือง. แต่การชุมนุมของมวลมหาประชาชนนั้น ทางศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ