posttoday

"วราเทพ"ย้ำ"ปู"ไม่ต้องพบกกต.

18 มกราคม 2557

วราเทพ ย้ำ นายกฯ ไม่จำเป็นไปพบ กกต. เหตุไร้ปัญหาใหญ่เลื่อนเลือกตั้งปมขาดจนท.ประจำหน่วย - ความปลอดภัย - สถานที่ ระดม เจ้าหน้าที่ตำรวจ มหาดไทย ศึกษาธิการ ช่วยเต็มที่

วราเทพ ย้ำ นายกฯ ไม่จำเป็นไปพบ กกต. เหตุไร้ปัญหาใหญ่เลื่อนเลือกตั้งปมขาดจนท.ประจำหน่วย - ความปลอดภัย - สถานที่ ระดม เจ้าหน้าที่ตำรวจ มหาดไทย ศึกษาธิการ ช่วยเต็มที่

ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) เวลา 13.00 น. นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่านส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบประธานและกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะไม่มีเหตุหรือปัญหาอุปสรรคใหม่ที่นายกรัฐมนตรีต้องไปหารือเพื่อดำเนินการแก้ไขหรือเลื่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เพราะรัฐบาลไม่มีอำาจใดๆในการเลื่อนวันเลือกตั้งได้ แต่หาก กกต.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ(รธน.)วินิจฉัยอำนาจเลื่อนเลือกตั้ง ทางรัฐบาลไม่ขอวิพากวิจารณ์ใดๆ แต่เห็นว่ากกต.ควรมุ่งเดินหน้าจัดการเลือกตั้งดีกว่า 

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ไขปัญหา 2 ส่วนสำคัญไปแล้ว คือ ปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง สถานที่และการรักษาความปลอดภัยโดยทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการระดมกำลังเข้าช่วยเหลือการทำงาน กกต. ส่วนปัญหาไม่มีผู้สมัคร สส.ใน28เขต จนต้องมีจัดการเลือกตั้งใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับทางรัฐบาล หรือแม้แต่ปัญหาการกีดกันการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขเปิดรับสมัครและจัดการเลือกตั้งใหม่

นายวราเทพ กล่าวว่าไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการทำงานของ กกต.หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ปปช.) ที่ดูเหมือนเป็นการกดดันบีบคั้นสถานะอายุรัฐบาล เพราะหากการทำงานใดๆยึดหลักทำงานตามอำนาจหน้าที่ที่ของตัวเอง ย่อมเป็นสิ่งที่ดี และมั่นใจว่าสิ่งที่ปรากฎสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และที่สำคัญรัฐบาลไม่ต้องเป็นคู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับ กกต.ทั้งในนาม กกต.หรือกรรมการบางคน เพราะจะกระทบกระเทือนต่อผู้สมัครสส.พรรคเพื่อไทย (พท.)ที่อาจไม่ส่งผลดี หรืออาจนำไปสู่การริดรอนผู้สมัครได้ 

และรัฐบาลยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องคู่ขนานไปกับการปฏิรูปประเทศไทย เพราะการปฏิรูปไม่อาจจะสำเร็จหรือเกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้นๆ และภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการประกาศสัตยาบันหรือสัญญาประชาคมของพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับการเดินหน้าปฏิรูปหลังการเลือกตั้งเมื่อมีรัฐบาลใหม่หรือบรรจุไว้เป็นนโยบายพรรคการเมืองและนโยบายรัฐบาล