"หมอวรงค์"ถล่มจำนำข้าวแฉข้าวถุงอคส.ไม่ถึงมือคนจน
หมอวรงค์ อภิปรายฯถล่มจำนำข้าว แฉระบายข้าว อคส. 120 ล้านถุง ไม่ถึงมือคนจน วนอยู่ที่เดิม งัดหลักฐานมัดร่วมมือกันอคส. โรงสี บ.ระบายข้าว แฉ บ.สิงโตทองโยงใยคนใกล้ชิดนายกฯ
หมอวรงค์ อภิปรายฯถล่มจำนำข้าว แฉระบายข้าว อคส. 120 ล้านถุง ไม่ถึงมือคนจน วนอยู่ที่เดิม งัดหลักฐานมัดร่วมมือกันอคส. โรงสี บ.ระบายข้าว แฉ บ.สิงโตทองโยงใยคนใกล้ชิดนายกฯ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เร่ิมต้นด้วย การอภิปราย โดยน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เก่ียวกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้ชื่อ "จุดจบจำนำข้าวสู่อวสานรัฐบาลยิ่งลักษณ์" พุ่งเป้าที่การะบายข้าวถุงทั้งโครงการข้าวถุงร้านถูกใจ ธงฟ้า และ องค์การคลังสินค้า(อคส.)
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการข้าวแห่งชาติ(กขช.) ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติจัดทำข้าวถุง 4 ครั้ง 1.เดือนต.ค.54 จำนวน 1 แสนตัน 20 ล้านถุง 2. เดือนมี.ค.54 จำนวน 1 แสนตัน 3.เดือนพ.ค.55 จำนวน 5 แสนตัน 4.เดือนธ.ค.55 จำนวน 1.8 ล้านตันแยกเป็นเดือนละ 3 แสนตัน 6 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายกฯต้องชี้แจงว่า เหตุใดมีการจัดทำข้าวถุงพร่ำเพรื่อ ทั้งที่การจัดทำข้าวถุงตั้งแต่ครั้งที่ 1 ยังไม่เสร็จ แต่ยังเดินหน้ามีมติระบายข้าวเพิ่มเติม นอกจากนี้การทำสัญญาแต่ละครั้งยังเป็นสัญญาปลายเปิด ไม่มีการระบุว่าจะต้องทำให้เสร็จภายในเมื่อใด รวมการลงนามในสัญญาระบายข้าวครั้งที่ 4 ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐมาลงนาม
นพ.วรงค์ กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับ พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ อดีตผอ.อคส. พบว่า มีปัญหามากจึงไม่กล้าลงนาม หากเกิดอะไรขึ้นจะต้องรับผิดชอบคนเดียว ฝ่ายการเมืองเอาตัวรอด จึงไม่กล้าลงนาม จากนั้นไม่กี่วันพ.ต.ท.ศราวุฒิก็ถูกพักงาน และอีกไม่นานก็เสียชีวิต
นพ.วรงค์กล่าวว่า จากตรวจสอบพบว่า การระบายข้าวด้วยวิธีการทำข้าวถุงมีข้าวธงฟ้า 0.3 % ข้าวถูกใจ 8 %และข้าวอคส. 90 % ซึ่งการระบายข้าวส่วนใหญ่อยู่ที่ข้าวอคส. ที่มีเจตนาทุจริตชัดเจน เพราะแม้จะมีข้าวอคส.ถึง 90 % แต่ไม่เคยพบว่า มีข้าวอคส.ในตลาดเลย เนื่องจากไม่มีการทำข้าวถุงอคส.จริง
อย่างไรก็ตาม พบว่ากระบวนการเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 ฝ่ายคือ 1.อคส. 2. โรงสีที่รับปรับปรุงข้าว 3 แห่งได้แก่ บริษัท เจียเม้ง จ.นครราชสีมา บริษัท โชควรลักษณ์ จ.ลพบุรี และบริษัท สิงโตทองไรซ์ จ.กำแพงเพชร 3.บริษัทตัวแทนจำหน่ายข้าวถุง 3 แห่งได้แก่ บริษัท สยามรักษ์ บริษัท คอนไซน์เทรดดิ้ง และบริษัท ร่มทอง โดยพบว่า ปริมาณข้าวถุงอคส. 120,176,000 ถุง ที่อคส.ส่งให้บริษัทตัวแทนจำหน่ายข้าวถุง 3 แห่ง ราคาถุงละ 65.70 บาท เพื่อไปขายให้ประชาชนถุงละ 70 บาท
นพ.วรงค์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าทั้งสามบริษัทไม่ได้นำข้าวไปขายให้ประชาชนตามเจตนารมณ์ของโครงการ แต่กลับไปจำหน่ายคืนให้โรงสีที่รับปรับปรุงข้าว โดยทำกันที่อคส. แล้วออกใบส่งมอบข้าว และจ่ายเงินผ่านเช็คธนาคาร โดยไม่มีการแปรเป็นข้าวถุงจริง ถือเป็นการโกหกแบบหน้าด้านๆ เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน
จากนั้นนพ.วรงค์ขอเปิดคลิปสนทนา ที่มีเนื้อหาการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่ตัวแทนของบริษัท คอนไซน์เทรดดิ้ง กับ บริษัท ร่มทอง มาชี้แจง ซึ่งยอมรับว่า ไม่มีประสบการณ์ขายข้าวถุง จึงขายคืนให้โรงสีที่รับปรับปรุงข้าวทั้งสามแห่ง แต่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ไม่อนุญาตให้เปิดคลิป เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาเอกสารหลักฐานประกอบการอภิปรายไม่อนุญาต เพราะคลิปดังกล่าวยังไม่ได้รับการยินยอมจากบุคคลภายนอกให้นำมาเปิดเผยได้ ทำให้ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนไม่พอใจรุมประท้วง แต่นายวิสุทธิ์ยืนยันว่า ไม่สามารถเปิดคลิปได้ และให้ดำเนินการอภิปรายต่อไป
ทั้งนี้ นพ.วรงค์อภิปรายต่อว่า เมื่อไม่สามารถเปิดคลิปได้ แต่มีหลักฐานเป็นคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท สยามรักษ์ บริษัท คอนไซน์เทรดดิ้ง และบริษัท ร่มทองว่า มีการขายข้าวคืนให้โรงสีที่รับปรับปรุงข้าวทั้งสามแห่งจริง
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ในส่วนของบริษัท สิงโตทองไรซ์ จ.กำแพงเพชร พบว่า มีรัฐมนตรี “ว” สายตรงเจ๊ “ด” เป็นแบ็คให้ แม้จะเป็นบริษัทที่เพิ่งเข้ามาใหม่ แต่ได้รับโควตาทำข้าวถุงถึง 1.5 แสนตัน สมัยนี้ฝ่ายการเมืองเขาไม่กินเอง แต่จะมีบริษัทรับงานจัดการให้ ขณะที่บริษัท เจียเม้ง แม้จะไม่มีนักการเมืองเป็นแบ็ค แต่ใจถึง ตอบสนองความต้องการฝ่ายการเมืองได้ เพราะรู้กลไกการทำข้าวถูกใจก่อน มีการสั่งทำถุงข้าวรอไว้ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ก่อนวันที่ครม.จะอนุมัติโครงการข้าวถุงในวันที่ 20 มี.ค. แต่ระยะหลังพอเริ่มรู้ตัว ก็เริ่มผันตัวออกจากโครงการ โดยมีบริษัท สิงโตทองไรซ์ และบริษัท โชควรลักษณ์ เข้ามาแทนที่
นพ.วรงค์ อภิปรายว่า จากการตรวจสอบยังพบว่า บริษัท คอนไซน์เทรดดิ้ง และบริษัท ร่มทอง ต่างทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน และผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี เช่นกัน เมื่อมารับทำโครงการนี้แต่ขายไม่เป็นเลยต้องขายคืนให้สามโรงสี ดังนั้นสองบริษัทนี้จึงเป็นแค่พระอันดับ แต่ต้องจับตาไปยัง บริษัทสยามรักษ์ เป็นบริษัททำดอกไม้แห้งแต่ได้ เข้ามาเป็นบริษัททำข้าวถุงตั้งแต่เริ่มโครงการ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.54 พบว่า มีนายเกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์ เป็นกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นพี่น้องกับนพ.เกรียงชัย ประสงค์สุกาญจน์ รองประธานบอร์ดอคส. ซึ่งนพ.เกรียงชัย เป็นเพื่อนนักเรียนแพทย์รุ่นเดียวกับ “หมอโด่ง” นพ.วีรวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรมว.พาณิชย์ ที่เคยพูดถึงในการอภิปรายครั้งที่แล้วว่ามีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับญาติของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นพ.วรงค์กล่าวว่า นายกฯจะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร ขอถามใจนายกฯว่า ทำอย่างไร ปล่อยให้มีการโกงทุกขั้นตอน แล้วยังมาอ้างทำข้าวถุงขายให้คนจน แล้วยังโกงอีก วนไปเวียนมา อยู่กับคนที่ใกล้ชิดนายกฯ ทีแรกคิดว่า นายกฯไม่รู้ อยู่ในฐานะนั่งเรือที่โจรพาย แต่ตอนหลังมีการโกงทั้งจีทูจี ทั้งข้าวถุง น่าจะเป็นพายเรือร่วมกับโจร รัฐบาลนี้ไม่ได้ช่วยคนจน แต่เอาคนจนมาทำมาหากิน
นพ.วรงค์ อภิปรายกล่าวว่า การปรับปรุงข้าวของโรงสีซึ่งรับซื้อข้าวจากอคส.ในราคาถุงละ 65.60 บาทดังนั้น 1 ตัน 200 ถุงจะเท่ากับมีต้นทุน 13,120 บาท และได้ค่าปรับปรุง 24 บาทต่อถุง รวม 1 ตัน โรงสีจะได้เงิน 4,800 บาท สรุปแล้วต้นทุนของโรงสีจะเหลือตันละ 8,320 บาท ทำให้มีการนำข้าวนี้กลับไปเวียนเทียนข้าวอีกรอบในราคาตันละ 14,000 บาท เท่ากับโรงสีจะได้กำไรเพิ่มอีก 5,680 บาทต่อตัน นอกจากนี้มติการจัดทำข้าวถุงครั้งที่ 4 จำนวน 1.8 ล้านตัน นักวิชาการคำนวณว่า จะมีกำไร 8,520 ล้านบาท แต่ทราบมาว่า ฝ่ายการเมืองขอแบ่งไป 5,000 ล้านบาท ที่เหลือให้โรงสีไปแบ่งกันเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อการจับทุจริตการทำข้าวถุงได้ก่อน ทำให้ครม.มีมติวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ชะลอการทำข้าวถุงออกไป ทำให้ความเสียหายเหลือเพียง 1.2 หมื่นล้านบาท แต่หากจับไม่ได้ จะเกิดความเสียหายถึง 5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงท้ายการอภิปราย
นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ ขอใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงชี้แจงว่า ทำให้ตนเองเสียหาย ซึ่งไม่ทราบว่าที่นพ.วรงค์อ้างทั้งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร จะจริงหรือไม่ไม่รู้ แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น หรือทราบเรื่องใด ๆทั้งสิ้นกับเหตุการณ์ที่นพ.วรงค์เอามาพูดในสภา ถ้านพ.วรงค์มีหลักฐานว่าตนเข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับรู้รับทราบ หรือลักษณะการสนับสนุน ตนยินดีจะไปพิสูจน์ทุกรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม กาารกล่าวหานักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเป็นเรื่องสำคัญ ตนเเองล่นการเมืองมา 20 ปี เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องรักษาไว้ในอาชีพนักการเมือง เพราะฉะนั้นการจะกล่าวหาใครควรจะกล่าวหาที่มีหลักฐาน การกล่าวหาลักษณะนี้เป็นการกล่าวหาลอย ๆ ว่าบริษัทหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดของนักการเมืองคนหนึ่ง ซึ่งแน่นอนจะต้องรู้จักกันเป็นธรรมดา แต่การรู้จักไม่ได้หมายความว่ารับรู้ รับเห็น การกระทำ จะถูกหรือผิดตนก็ยังไม่ทราบ ตนไม่เรียกร้องให้ถอน ยืนยันเป็นการกล่าวความเท็จทั้งสิ้นที่เกี่ยวข้องกับตน
ทำให้นพ.วรงค์ลุกขึ้นประท้วงว่า ไม่คิดว่ารมต.จะกินปูนร้อนท้อง แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่พูดถึงเป็นบารมีของรัฐมนตรี “ว.” คนหนึ่งในสายเจ๊ ด. ไม่ได้กล่าวหาใคร ยังยืนยันข้อมูล ขณะที่นายวราเทพ ชี้แจงว่า คิดไม่ผิดว่าจะต้องพูดว่ากินปูร้อนท้อง และใช้ลักษณะของการล่อ ใช้ชื่อมาก่อนและลุกขึ้นมาพูด ซึ่งยืนยันว่าเป็นลักษณะการใช้เกมฉ้อฉลเพื่อจะให้ผูกเรื่องนี้ให้ความน่าเชื่อถือ
ภายหลังการอภิปราย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคลิปที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดในห้องประชุมมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยภาพในคลิปเป็นตัวแทนของบริษัท ร่มทอง และบริษัท คอนไซน์เทรดดิ้งที่เกี่ยวกับการขายข้าวถุงให้โรงสีทั้งสามแห่งจริง ซึ่งนพ.วรงค์กล่าวว่า คลิปดังกล่าวมีความยาว 2 นาที จะนำไปเผยแพร่ในยูทูปใช้ชื่อว่า “คำสารภาพขายข้าวถุง-ร่มทอง-คอนไซน์ฯ” และข้อมูลต่างๆสามารถขอได้จากรัฐสภา เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มาจากการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเศรษฐกิจที่เปิดเผยให้ประชาชนรับทราบอยู่แล้ว