posttoday

'ศิริโชค'ปัดโดนทูต'วีรชัย'สอนมวย

14 พฤศจิกายน 2556

'ศิริโชค'โพสต์เฟซบุ๊กหลังมีการแชร์คลิปตอบโต้จากทูตวีระชัยยันไม่คิดว่าเป็นการสอนมวยสู้กันด้วยเหตุผล

'ศิริโชค'โพสต์เฟซบุ๊กหลังมีการแชร์คลิปตอบโต้จากทูตวีระชัยยันไม่คิดว่าเป็นการสอนมวยสู้กันด้วยเหตุผล

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีที่มีการแชร์คลิปที่มีการตอบโต้กับนายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายไทยสู้คดีพิพาทกรณีปราสาทเข้าพระวิหาร ระหว่างการประชุมรัฐสภา ตาม รธน.มาตรา 179 โดยมีการระบุว่าเป็นการสอนมวยนายศิริโชค โดยระบุว่า สิ่งที่นำมาเสนอ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครที่อ่านภาษาอังกฤษ และศึกษาเรื่องแผนที่ ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปได้ของการเสียดินแดน ตามการโยกของเส้น 1: 200,000 และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริงเท่านั้น
         
นายศิริโชค ระบุว่า เข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคนทำงาน และขอชื่นชมจากใจที่ทีมทนายของประเทศไทยได้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรับทราบความเป็นจริง และเป็นเรื่องของคนไทยที่จะต้องตัดสินใจ ที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ ที่ผ่านมาย้ำเสมอ ผลพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร เราคงโทษใครไม่ได้ เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฏ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส
         
สำหรับข้อความที่นายศิริโชคโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เป็นดังนี้
         
เมื่อรัฐบาลต้องการฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ต้องนำเอาความห่วงใย และการชี้แนะเพื่อนำเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบ ผมจึงอยากให้พี่น้องประชาชนดูตามข้อเท็จจริงตามที่ผมได้อภิปรายในสภาฯ การที่ผมนำเอาภาพแผนที่แสดงให้เห็น เส้นแผนที่ 1 : 200, 000 ไม่ได้ส่งผลผูกพันทางกฎหมายกับประเทศแต่อย่างใด ( สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย พูดในสภาฯ ถึงขั้นบอกว่าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของกัมพูชา) อีกทั้งก็ไม่ได้มีการระบุตำแหน่งที่ชัดเจนของเส้นว่าอยู่ตรงไหน
         
แต่เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าครั้งนี้ (11 พ.ย. 56) ศาลโลกได้พิพากษา และระบุว่าอาณาบริเวณของ promontory ( ชะง่อนผา)ว่าครอบคลุมไปถึงไหน ( ทิศใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จรดหน้าผา ทิศตะวันออกจรดหน้าผา ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจรดตีนเขาภูมะเขือ) มีแต่ทางทิศเหนือเท่านั้นนั้นที่เป็นปัญหา เพราะต้องมีการเจรจากันระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะศาลโลกบอกว่าทิศเหนือจรด เส้นแผนที่ 1: 200,000 แต่ศาลโลกไม่สามารถบอกตำแหน่งที่แท้จริงของเส้นนี้ได้ ดังนั้นการที่จะทำแผนที่เพื่อชี้ให้เห็นว่าเส้น 1:200,000 มันสามารถโยกขึ้นโยกลงอยู่ที่การเจรจา และเมื่อมีการโยกเส้นนี้ขึ้นลง ไม่ว่าจะโยกอย่างไร ประเทศไทยก็ต้องเสียพื้นที่เกินกว่ารั้วรวดหนาม ที่กั้นตามมติ ครม. เมื่อปี 2505 และผลการโยกนั้นอาจทำให้เราสูญเสียดินแดน ตั้งแต่ 170 ไร่ ไปจนถึง 1250 ไร่ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่รัฐบาลควรให้ประชาชนรับทราบ และเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน
         
ผมไม่คิดว่ามีการสอนมวย เหมือนที่สื่อมวลชน และผู้ที่อัพโหลดคลิปนี้พยายามชี้นำ ต่างคนก็ต่างโต้กันด้วยเหตุผล ผมคิดว่าเมื่อท่านได้ดูคลิปนี้อย่างละเอียด รอบคอบ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ผมนำมาเสนอ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ใครที่อ่านภาษาอังกฤษ และศึกษาเรื่องแผนที่ ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปได้ของการเสียดินแดน ตามการโยกของเส้น 1: 200,000 และเป็นการวิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ครบถ้วน เพียงแต่มีความพยายามในการใช้วาทกรรม เพื่อกลบเกลื่อนความจริง ผมเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของคนทำงานครับ และขอชื่นชมจากใจอีกครั้ง ที่ทีมทนายของประเทศไทยได้สู้กันอย่างเต็มที่ เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยต้องรับทราบความเป็นจริง และเป็นเรื่องของคนไทยที่จะต้องตัดสินใจ ที่จะยอมรับคำตัดสินของศาลโลกหรือไม่ ผมย้ำเสมอ ผลพิพากษาออกมาเป็นอย่างไร เราคงโทษใครไม่ได้ เพราะทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่วันนี้ความจริงต้องปรากฏ และรัฐบาลต้องร่วมตัดสินใจกับประชาชนอย่างโปร่งใส
         
ผมภูมิใจกับการทำหน้าที่ในครั้งนี้ แม้ว่าเป็นเรื่องที่ยากในการที่จะสวนกระแส แต่ก็ไม่เคยท้อแท้ เพราะผมเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย กาลเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ