ดักคอรัฐอ้างน้ำท่วมสวมรอยข้าวเสียหาย

หมอวรงค์ดักคอรัฐอ้างน้ำท่วมสวมรอยข้าวค้างโกดังเสียหาย เตรียมยื่นศาลปกครองหากนาปรังลดเหลือเกวียนละ 1.3  หมื่น

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมาใช้เงินไปแล้ว 2  ปี  6.77 แสนล้านบาท และในปีนี้อีก  2.7 แสนล้านบาท หากรวมกับค่าบริหารจัดการ ค่าเช่าโกดัง เซอร์เวเยอร์ จะเป็นเงินถึง 1 ล้านล้านบาท แต่เงินดังกล่าวกลับไม่ได้ลงไปถึงมือประชาชนอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเร่งสรุปปิดบัญชีและเปิดเผยรายละเอียดให้ประชาชนได้รับทราบว่าขาดทุนเท่าไหร่อย่างไร

ทั้งนี้ ล่าสุด ยังได้รับแจ้งจากชาวนาจ.พิจิตรว่า ได้นำข้าวไปจำนำล็อตใหม่ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ในราคาเกวียนละ 9,800 บาท ทั้งที่รัฐบาลประกาศว่ารับจำนำเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท หรือหักค่าความชื้นแล้วจะอยู่ที่ 1.05 หมื่นบาท ดังนั้นรัฐบาลต้องตรวจสอบเรื่องนี้

นอกจากนี้ เชื่อว่า การที่ฝนตกและน้ำท่วมในช่วงนี้ จะกลายเป็นจำเลยที่ถูกอ้างว่าเป็นที่มาของความเสียหายของข้าว​ที่ค้างอยู่ในโกดังของรัฐบาล ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ตรวจสอบสต็อกของรัฐบาลว่ามีข้าวเหลืออยู่เท่าไหร่ อีกทั้งที่ผ่านมาจากการตรวจสอบโกดังทั่วประเทศเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมาพบว่ามีข้าวหายไป 1 ล้านตันนั้น เวลานี้มีความคืบหน้าในการตรวจสอบอย่างไร

นพ.วรงค์​ กล่าวว่า เวลานี้กรอบวงเงิน​ 2.7 แสนล้านบาท ​ที่ครม.อนุมัติให้ใช้ในโครงการนาปี นาปรัง ต่อจากนี้นั้น ยังเป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะหาเงินมาจากไหน รวมทั้งไม่มีการกำหนดว่าจะใช้ในนาปีเท่าไหร่นาปรังเท่าไหร่ ดังนั้นจึง อาจส่งผลกระทบให้ไม่มีเงินเหลือไปถึงชาวนาที่จะนำนาปรังได้ และด้วยความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเชื่อว่าในฤดูกาลเพาะปลูกนี้จะมีม็อบชาวนาเกิดขึ้นเหมือน ม็อบเกษตรกรอื่นๆ ที่สำคัญในโครงการนาปรังที่รัฐบาลระบุว่าจะลดเงินจำนำเหลือ 1.3 หมื่นบาทนั้นถือว่าไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศเป็นแนวนโยบาย จำนำทุกเมล็ด 1.5 หมื่นบาท  ซึ่งหากถึงวันนั้นชาวนาก็สามารถไปฟ้องศาลปกครองขอให้รัฐบาลชดเชยอีกเกวียนละ 2,000 บาท ส่วนจะได้หรือไม่ก็จะอยู่ที่ศาลจะพิจารณา