ฝ่ายค้านถล่มรัฐเมินปัญหาชาวสวนยาง

ฝ่ายค้านรุมซัดรัฐบาลไม่มีท่าทีแก้ปัญหาชาวสวนยาง ชี้หากไม่ช่วยเหลือระวังบานปลายทั่วประเทศ "เต้น"ย้ำเงินช่วยต้นทุนผลิตถึงมือเกษตรกรโดยตรง

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติ ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนในเรื่องราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำและค่าครองชีพที่มีราคาแพง โดยเฉพาะปัญหายางพาราตกต่ำที่ค้างมาจากสัปดาห์ที่แล้ว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามว่า ได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ให้มาร่วมฟังญัตตินี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ แจ้งว่า เมื่อเช้าวันนี้ (5ก.ย.) ได้เห็นหนังสือแล้ว ซึ่งนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และรมช.เกษตรฯ ชี้แจงว่า ได้ประสานแล้ว ส่วนจะมาหรือไม่คงต้องรอดูก่อนว่านายกฯมีภารกิจหรือไม่ แต่หากมีอะไร รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็พร้อมชี้แจงแทน

นายสาทิตย์ อภิปรายว่า ขณะนี้การชุมนุมเริ่มบานปลายอย่างต่อเนื่อง โดยที่รัฐบาลไม่มีท่าทีที่จะแก้ปัญหาแต่อย่างใด เป็นการขอหมูให้หมา ขอราคาให้ปุ๋ย ซึ่งเป็นการแก้ไม่ตรงจุด และใช้ความรุนแรงข่มขู่ผู้ชุมนุม ถือเป็นรัฐบาลแรกที่สลายการชุมนุมกับม็อบเกษตรกร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าถ้าใครไปปิดสนามบินจะมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต หรือการที่ให้ตัวแทนชาวสวนยางนั่งเครื่องบินมาเจรจากับรัฐมนตรีถึงในกรุงเทพฯ ก็เพื่อมาประทับตราให้กับรัฐบาล

“แต่พอไม่สำเร็จ ก็ให้นั่งรถกลับ ถือว่าใจดำอำมหิตมาก และที่พูดขณะนี้ก็ไม่มีรัฐมนตรีคนใดฟัง แล้วจะพูดทำไมว่าให้เอาปัญหามาพูดในสภาฯ”นายสาทิตย์ กล่าว

ด้านนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนข้อเรียกร้องของเกษตรกร ถ้ารัฐบาลส่งสัญญาณในทางบวก จะส่งผลทางจิตวิทยาให้ราคายางดีขึ้น ข้ออ้างที่ว่า ประเทศไทยไม่มีแรงต่อรองในตลาดโลกนั้นไม่จริง เพราะประเทศไทยผลิตยางพาราได้มากที่สุดในโลก จึงมีอำนาจต่อรองเต็มที่ แต่รัฐบาลเลือกปฏิบัติในการแก้ปัญหายางพาราและการจัดการกับผู้ชุมนุม ทำให้เหตุการณ์บานปลาย

“ถ้ายังไม่แก้ไขระวังดอกยางจะบานไปทั่วประเทศ ถ้ามติครม.ในวันอังคารหน้า ไม่มีการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เกษตรกรก็ไม่มีทางเลือก คิดได้อย่างเดียวว่ารัฐบาลสองมาตรฐาน เป็นอำมาตย์ลืมตีน”นายชินวรณ์ กล่าว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้หนีหน้าการแก้ปัญหาแต่อย่างไร แต่ได้เชิญรองนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปหารือเพื่อตั้งคณะกรรมการเจรจาหาทางออกให้กับชาวสวนยางภาคใต้ที่กำลังชุมนุมอยู่ขณะนี้ จึงไม่สามารถรายงานความคืบหน้าให้ทราบได้

ส่วนมาตรการที่รัฐบาลให้ค่าช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรไร่ละ 1,260 บาท จำนวน 10 ไร่นั้น เป็นเงินสดๆที่เกษตรกรได้ทันที จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า ยางพารา 1 ไร่ ให้ผลผลิต 2 กิโลกรัม ซึ่ง 1 เดือนกรีดยางได้ 15 วัน และกำหนดระยะเวลาที่จะสิ้นสุดการกรีดยางถึงเดือนมี.ค. 57 ดังนั้น ตั้งแต่เดือนก.ย.ถึงมี.ค.57จะมีผลผลิต 2,100 กิโลกรัมต่อ 10 ไร่ เฉลี่ยแล้วรัฐบาลจะชดเชยเงินค่าผลผลิตยางให้เกษตรกรได้กิโลกรัมละ 6 บาท

อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ราคายางในตลาดทะลุเกิน 80 บาท รัฐบาลจะบวกเพิ่มให้อีก 6 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการปิดช่องทางไม่ให้นายทุนหรือพ่อค้าคนกลางไปกว้านซื้อยางมากักตุนฟันกำไร เพราะเงินถึงมือเกษตรกรโดยตรง ยืนยันรัฐบาลชุดนี้ทุ่มเทแก้ปัญหายางเต็มที่ ไม่น้อยกว่ารัฐบาลชุดอื่น การกล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่สนใจแก้ปัญหา เพราะภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงรัฐบาลนั้น ไม่เป็นความจริง

“ทุกวันนี้มีการปลูกยางทุกภาคทั่วประเทศ ไม่มีรัฐบาลชุดไหนจะแบ่งแยกประชาชน แม้จะได้เสียงสนับสนุนจากคนภาคใต้ไม่มากนัก แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้ว ถือเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ผมกังวลว่า สถานการณ์ขณะนี้จะมีบางฝ่ายสร้างสถานการณ์การเมืองซ้อนปัญหาของเกษตรกรอีก และขอยืนยันในความบริสุทธิ์ ซึ่งประชาชนที่ติดตามข่าวสารมาตลอดจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าใครมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ยืนยันว่า การเจรจายังมีอย่างต่อเนื่อง”นายณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลนำแกนนำผู้ชุมนุมขึ้นเครื่องบินมาเจรจาในกทม. แล้วปล่อยให้กลับโดยรถตู้ ไม่เป็นความจริง เพราะจากการตรวจสอบพบว่า เป็นการให้ขึ้นเครื่องกลับบ้าน มีพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นั่งไปส่งถึงสนามบินนครศรีธรรมราช และนั่งรถตู้กลับไปยังเวที ยืนยันรัฐบาลไม่มีแนวคิดใช้ความรุนแรง อำมหิตกับผู้ชุมนุม ไม่คิดจะแบ่งแยกว่า ไม่สนใจคนภาคใต้ เพราะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ