จวกรัฐทุ่มงบพีอาร์พันล."ปู"ทัวร์นอกกระจุย

สาทิตย์ซัดรัฐทุ่มงบพีอาร์พันล้านสูงสุดในประวัติศาสตร์ ข้องใจใช้ 71 ล้านให้"ปู"ทัวร์นอกเกือบทุกเดือน แต่ตัดงบธนาคารที่ดินเพื่อคนจน 17 ล้าน  

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า งบประชาสัมพันธ์ในส่วนของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สูงถึงเกือบพันล้านบาทน่าจะสูงสุดในประวัติศาสตร์ท่ามกลางวภาวะประเทศเป็นหนี้สิน เป็นส่วนการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ 550 ล้านบาท ที่กมธ.ปรับลดได้ 15 ล้านบาท และ ​การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รัฐบาล   500 ล้านบาท ที่ไม่ปรับลดเลย นอกจากนี้ งบในส่วน 500 ล้านบาท  ซึ่งจัดกิจกรรม ลงไปจัดเก็บข้อมูลภาคสนาม ที่สงสัยว่าเป็นการทำโพลเชียร์รัฐบาลหรือไม่ มีการจ้างที่ปรึกษา 30 คนเป็นเงินเดือน 7 ล้านบาท  จ้างนักวิจัยภายนอก เช่ารถยนต์ ​ออกแบบระบบอินเตอร์เน็ต เชื่อมโยงเครือข่าย 2 ล้านบาท  จัดทำนิทรรศการเคลื่อนที่จังหวัดต่างๆ 237 ล้านบาท ซึ่งปกติจัด ให้คนเข้าไปดู แต่รายการนี้จ่ายค่ารถให้คนดู 400 บาท ต่อวัน เลี้ยงอาหาร จ่ายค่าวิทยากร รายการนี้มีงบประชาสัมพันธ์ข้อมูล

ทั้งนี้ หากดูเฉพาะในส่วนงบประชาสัมพันธ์ 119 ล้านบาท ซื้อสื่อโทรทัศน์ 60  ล้านบาท  สื่อหนังสือพิมพ์สูงถึง  16 ล้านบาท แต่สำหรับเรื่องคนจนธนาคารที่ดิน 17 ล้านบาท กลับถูกตัดทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์  แต่งบประชาสัมพันธ์คุณงามความดีของรัฐบาล 500 ล้านบาท   ดังนั้นที่บอกว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากคนจนจึงไม่ใช่เรื่องจริง 

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในอดีตมีการซื้อสื่อแสดงถึงความลำเอียงเลือกข้างพวกพ้องอยู่เยอะ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ไปซื้อสื่อดาวเทียมพยายามซื้อหลายสีแต่สีลำเอียงฝั่งรัฐบาลจะมากผิดปกติ  โดยเฉพาะโทรทัศน์มีบทบาทปลุกระดมมวลชนเผาบ้านเผาเมือง 52-53  และครั้งนี้ อีก 500 ล้าน ไม่มีรายละเอียดจะถมเข้าไปช่วยพรรคพวกอีกใช่หรือไม่ กมธ.ได้ซักถามรายละเอียดหรือไม่

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ นั้นถูกวิจารณ์มาเพราะในเอกสารพบว่าตั้งงบไว้ในส่วนของสำนักนายกฯ  71 ล้าน วางไว้ไปเกือบทุกเดือน  และเชื่อว่ามีหลายกระทรวงจัดข้าราชการไปหลายร้อยหรืออาจถึงพันล้านบาท กมธ.มีการตรวจสอบหรือไม่ว่า ไปมาแล้วว่าไปทำอะไร เจรจามาแล้วได้อะไรมาบ้าง และวิธีการเลือกประเทศเลือกอย่างไร เปิดแผนที่โลกแล้วหลับตาจิ้มหรือ เลือกประเทศที่ยังไม่ได้ไปแล้วอยากไป  หรือเพราะมีตลาดการค้า

ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์​ชัยกุล  ชี้แจงว่า การเยือนต่างประเทศของนายกฯ นั้นเพื่อ​เจรจาให้มามาลงทุนค้าขายกับไทย หลังเกิดวิกฤตการเมืองมีรัฐบาลที่สั่งกระชับพื้นที่จนประชาชนเสียชีวิต และสังคมโลกไม่ยอมรับ เป็นหน้าที่รัฐบาล  และตนเองเป็นรมว.ต่างประเทศ  ซึ่งการเลือกประเทศไม่ได้ หลับตาแล้วจิ้มอย่างที่กล่าวหา  แต่เลือกประเทศมีศักยภาพ อัตราการเจริญเติบโตภูมิภาค จีดีพีประมาณ 5-10% ใกล้กับไทย อาเซียน เช่นแอฟริกา หรือละตินอเมริกาที่มีแหล่ง วัตถุดิบ น้ำมันแก๊ซธรรมชาติ ซึ่ง ปตท.ไปลงทุน  ถ่านหิน แหล่งประมง เพชร พลอย และดูว่าเขาต้องการอาหาร ที่จะไปขายด้วย ​ทั้งที่ผ่านมาการเดินทางไปยังต่างประเทศไม่เพียงพอ  ยังไปหาความร่วมมือกับต่างประเทศ ไม่ยึดวิธี การทำงานเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆ มาไปประชุมเพียงแค่อย่างเดียว ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ 

นอกจากนี้ กรณีพาดพิงการจัดปาฐกถา  ผนึกกำลังสู้สู่อนาคตและเรียนรู้ร่วมกัน กล่าวหาว่าจ่ายโทนี แบลร์ 20 ล้านบาท ตนเองเป็นคนจัดการ ไม่เสียเงินค่าจ้างโทนีแบลร์ แม้แต่บาทเดียว จ่ายเพียงแค่ค่าที่พัก และค่าเดินทาง เพราะเขามาให้ประสบการณ์  วิชาการ ดังนั้นการมากล่าวหาว่าใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่ถูกต้อง