posttoday

ธาริตปัดออกหมายจับสส.ปชป.คดีเงินบริจาค

24 กรกฎาคม 2556

ดีเอสไอยืนยันไม่ออกหมายจับส.ส.ปชป.15คน คดีเงินบริจาค ย้ำรอคำวินิจฉัยกกต.ประกอบสำนวน

ดีเอสไอยืนยันไม่ออกหมายจับส.ส.ปชป.15คน คดีเงินบริจาค ย้ำรอคำวินิจฉัยกกต.ประกอบสำนวน

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีนายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ดีเอสไอ วางแผนที่จะออกหมายจับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย สส.บัญชีรายชื่อพรรคอีก 15 คน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาคดีบริจาคเงินให้พรรค ว่าขอยืนยันว่า ดีเอสไอจะไม่มีการออกหมายจับนายชวนและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์รวม 15 คนที่ยังไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ได้สั่งให้พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ ขอรายงานการประชุมและผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำมาพิจารณาประกอบกับสำนวนของดีเอสไอที่ทำอยู่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตามที่คณะกรรมาธิการงบประมาณได้ร้องขอ นอกจากนี้ยังได้กำชับพ.ต.อ.นิรันดร์ ว่าหากจะดำเนินการใดๆให้แจ้งให้ตนในฐานะอธิบดีดีเอสไออนุมัติเห็นชอบก่อนทุกครั้ง อย่างไรก็ตามดีเอสไอจะต้องรอคำวินิฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ก่อนว่าเกี่ยวข้องกับคดีของดีเอสไออย่างไร

"ส่วนส.ส.พรรคประชาธิปัตย์รวม 15 คนที่ไม่ยอมมาให้ปากคำกับดีเอสไอนั้น ขอชี้แจงว่าในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเมื่อดีเอสไอดำเนินการแจ้งข้อหา แล้วสิ่งที่ดีเอสไอจะทำได้คือการมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องเพื่อส่งให้อัยการ ซึ่งไม่มีหรอกที่จะไปยุติและเก็บเรื่องเอาไว้ เพราะมันทำไม่ได้และกฎหมายก็ไม่ได้เปิดช่องเอาไว้ให้ทำเช่นนั้น ดีเอสไอมีทางเลือกอยู่สองทางคือ การมีความเห็นควรสั่งฟ้องไปยังอัยการและ การมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ส่วนที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์รวม 15 คน ปฏิเสธไม่เข้ามาเป็นผู้ต้องหานั้น ก็ยอมรับว่าตนก็ไม่สบายใจอยู่เช่นกัน เพราะตนอยากให้เข้ามาในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ถูกผิดมันจะได้ยุติกระบวนการ ไม่เช่นนั้นมันก็จะเป็นการยุตินอกกระบวนการ อย่างไรก็ตามดีเอสไอจะดำเนนิการอย่างระมัดระวังและจะนำเข้าที่ประชุมเพื่อหารือในประเด็นดังกล่าวต่อไป" นายธาริต กล่าว

นายธาริต ยังกล่าวถึงกรณี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อดีเอสไอ ให้ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล พร้อมกับให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะเห็นว่ามีการทุจริตในโครงการทุกขั้นตอน ว่า กรณีดังกล่าวเมื่อมีผู้ร้องเรียนเข้ามาอย่างเป็นทางการก็จะทำการตรวจสอบต่อไป จะไม่ซุกเรื่องเอาไว้แน่นอน โดยในวันนี้ได้มอบหมายเรื่องดังกล่าวให้กับพ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันทร์กิจ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วและยืนยันว่าดีเอสไอจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ดีเอสไอพร้อมจะทำงานให้กับทุกฝ่าย เพราะดีเอสไอไม่ใช่ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องจากนายธาริต ให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงเช้านี้ โดยขั้นตอนต่อไปตนจะเริ่มดำเนินการเสนอเรื่องให้นายธาริตแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อทำการสืบสวนต่อไป อีกทั้งจะมีหนังสือเชิญนายบุญจง นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.เรวดี รัศมีทัต ส.ส.สมุทรปราการ มาให้ปากคำภายในสัปดาห์หน้า หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้วดีเอสไอก็จะทำหนังสือไปถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอข้อมูลในประเด็นต่างๆตามที่ผู้ร้องสงสัยก่อนจากนั้นจึงจะทำการตรวจสอบกระบวนการขั้นตอนของโครงการดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้ยืนยันว่าจะทำงานตรงไปตรงมาหากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีโดยส่งเรื่องให้ปปท.และ ปปช.ทันที