"มาร์ค-อลงกรณ์"ยันไม่ขัดแย้งปฏิรูปปชป.
อภิสิทธิ์-อลงกรณ์ สยบรอยร้าวร่วมแถลงข่าวเดินหน้าลุยปฏิรูปยันไม่มีขัดแย้ง เดินหน้าตั้งกรรมการหาข้อสรุป 30 วันวิเคราะห์อาจมีเลือกตั้งปีนี้
อภิสิทธิ์-อลงกรณ์ สยบรอยร้าวร่วมแถลงข่าวเดินหน้าลุยปฏิรูปยันไม่มีขัดแย้ง เดินหน้าตั้งกรรมการหาข้อสรุป 30 วันวิเคราะห์อาจมีเลือกตั้งปีนี้
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวทางการปฏิรูปพรรค โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง และ สถานการณ์ที่วิเคราะห์ว่าอาจมีการเลือกตั้งภายในปีนี้ด้วยซ้ำ จึงต้องเตรียมความพร้อม โดยเป้าหมายคือต้องการชัยชนะ ซึ่งเป็นโจทย์ที่สำคัญที่จะต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง อย่างเป็นระบบ โดยกรอบความคิดที่มีการเสนอมา กรรมการบริหารพรรคเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องปรับปรุงการดำเนินการในลักษณะที่เป็นองค์รวม เชื่อมโยง โครงสร้างพรรค ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ เสริมความเข้มแข็งเปิดกว้างให้มีบุคคลที่เป็นมืออาชีพเข้ามาช่วยงานได้ รวมถึงวิธีการทำงานของบุคลากรและกลไกของพรรค ซึ่งมีหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ความเห็นยังคงมีหลากหลาย ทั้งเรื่องส่วนยอดของกรรมการบริหารพรรคจะปรับปรุงอย่างไร การทำงานในพื้นที่สายงานหรือโครงสร้างเป็นอย่างไร แต่โดยสรุปแล้วเห็นตรงกันว่า การปรับปรุงในเรื่องนี้ให้ยึดประสิทธิภาพเป็นหลัก เน้นความยืดหยุ่น เปิดกว้าง กระชับ คล่องตัว จึงเห็นว่าจะมอบหมายให้คณะบุคคลไปทำงานเพื่อนำเสนอโครงสร้าง แนวทางการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภายใน 30 วัน เพื่อส่งให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา และเสนอต่อที่ประชุมสส. หากจำเป็นจะต้องแก้ไขระเบียบข้อบังคับพรรคก็จะมีการเรียกประชุม ซึ่งจะทำให้เสร็จได้เรียบร้อยภายใน 3 เดือน
นายอภิสิทธิ์์ กล่าวว่า กระบวนการต่อจากนี้จะเป็นเรื่องภายใน ทั้งเรื่องคณะทำงานที่จะเป็นใคร และพิจารณาในรายละเอียดอย่างไร ซึ่งช่วงนี้ไม่อยากให้เกิดความสับสนขอให้ทุกฝ่ายรอข้อยุติที่จะใน 30 วันข้างหน้า อีกทั้งการปรับปรุงไม่ได้ยึด ร่างพิมพ์เขียวของนายอลงกรณ์เป็นหลัก โดยพรรคจะเปิดกว้าง รับฟังทุกข้อเสนอ และทุกข้อเสนอมีเป้าหมายเดียวกัน คือผลักดันอุดมการณ์พรรค โดยการปฏิรูปไม่ได้ทำเพื่อพรรคแต่ปฏิรูปเพื่อให้พรรคเป็นกลไกที่เข้มแข็งสำหรับสังคมและบ้านเมือง และที่ผ่านมาพรรคไม่ได้หยุดอยู่กับที่ แต่ทำจนคะแนนขยับจาก 7 ล้านเสียง มาเป็น 11-12 ล้านเสียงและ จะต้องทำให้ได้ 15 ล้านเสียง
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การเสนอพิมพ์เขียวไปนั้นก็เป็นเพียงหนึ่งความคิด เพราะยังมีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง กับนายอภิสิทธิ์หรือคนในพรรคเกี่ยวกับการปฏิรูปพรรคที่ตนนำเสนอ และจะนำเสนอแผนพิมพ์เขียวในการปฏิรูปพรรคนี้ต่อที่ประชุมสส.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อให้เพื่อนส.ส. ตัวแทนกรรมการสาขาพรรค ตลอดจนผู้ใหญ่ทั้งสภากรรมการที่ปรึกษาพรรคร่วมพิจารณา หากใครมีข้อเสนอแนะหรือจะเสนอร่างใดประกบในการปฏิรูปพรรคก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ตนต้องทวีตข้อความออกมานั้น ไม่ใช่ความขัดแย้ง เป็นเพียงความแตกต่างทางความคิด และมีการบิดเบือนแผนการปฏิรูปพรรคของตนว่าไปเลียนแบบพรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องชี้แจงเพราะไม่ต้องการให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยพิมเขียวของตนยืนยันชัดเจนว่า ยึดมั่นการปกครองในระบบประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ยึดผลประโยชน์ของประชาชนโดยรวมเป็นที่ตั้ง
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ตนเองได้เสนอให้เพิ่มสำนักวิจัยและสำนักนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศเพราะตั้งพรรคมา 67 ปี ไม่มีสำนักนี้ และถ้ามาทำตอนเลือกตั้งจึงสู้เขาไม่ได้ และเปิดให้มีการบริหารจัดการใหม่ โดยแยกการเมืองออกจากการบริหารให้มีการตั้งรัฐบาลเงา ที่มีอดีตรัฐมนตรี สส.อาวุโสร่วมเป็นเพื่อตรวจสอบการบริหารใช้อำนาจ ทำกันเป็นรายวันของนายกฯและรัฐมนตรีทุกกระทรวง