posttoday

ปูเยือนสวีเดน-เบลเยี่ยมย้ำไทยประตูสู่อาเซียน

09 มีนาคม 2556

"ยิ่งลักษณ์" แจง เยือนสวีเดน-เบลเยี่ยม ย้ำความสัมพันธ์อียู พร้อมเป็นประตูสู่อาเซียน ยันไทยพร้อมลุยพลังงานสะอาด เชิญชวนชมนิทรรศการ Thailand 2020

"ยิ่งลักษณ์" แจง เยือนสวีเดน-เบลเยี่ยม ย้ำความสัมพันธ์อียู พร้อมเป็นประตูสู่อาเซียน ยันไทยพร้อมลุยพลังงานสะอาด  เชิญชวนชมนิทรรศการ Thailand 2020

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนถึงการเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดนและราชอาณาจักรเบลเยียมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4-7 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า การเดินทางเยือนราชอาณาจักรสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศใหญ่และเป็นประตูสู่ยุโรปเหนือ เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายระหว่างกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด และนาโนเทคโนโลยีต่างๆ นอกจากนี้การเดินทางเยือนทั้ง 2 ประเทศเพื่อเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่าร้อยปี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระราชาธิบดี คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ทั้งนี้ ยังได้ให้ความเชื่อมั่นต่อทั้ง 2 ประเทศและกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู กับเศรษฐกิจของไทย พร้อมกันนี้ได้ย้ำว่าไทยพร้อมต้อนรับนักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรป ในฐานะประตูสู่อาเซียน เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาไทย รวมถึงการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยภายใต้งบประมาณ 2 ล้านล้านบาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมชมเมืองซิมไบโอซิตี้ (Symbio City) ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองที่มีปัญหามลพิษจากอุตสาหกรรม แต่สามารถเปลี่ยนเมืองให้ใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด พร้อมปรับพฤติกรรมของประชาชนในการแยกขยะ ซึ่งมองว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงวิชาการเรื่องพลังงานทดแทนจะช่วยให้ไทยได้รับประโยชน์ และอาจนำแนวทางของเมืองซิมไบโอซิตี้ มาเป็นต้นแบบการสร้างเมืองใหม่ของไทยด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นการท่องเที่ยวด้วยว่า นักท่องเที่ยวจากสวีเดนได้มาเที่ยวเมืองไทยปีละประมาณ 3.5 แสนคน โดยคนไทยอาศัยที่สวีเดนประมาณ 3 หมื่นคน และสวีเดนมีเที่ยวบินตรงมายังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งแผนการดึงนักท่องเที่ยวให้มาไทยมากขึ้นจะเน้นไปที่ผู้สูงอายุที่มาท่องเที่ยวและรักษาสุขภาพในไทย เนื่องจากไทยมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่แพ้ที่ใดและราคาไม่สูง แต่อาจติดปัญหากฎระเบียบต่างๆ จึงได้ขอความร่วมมือจากสวีเดนให้ส่งเสริมและแก้ไขกฎระเบียบดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่สหภาพยุโรปรับจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ จีไอ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ของไทยแล้วจะเดินหน้าขอจดทะเบียนจีไอกาแฟดอยตุง และ กาแฟดอยช้าง เพิ่มเติม ซึ่งมองว่าสหภาพยุโรปได้ให้ความสำคัญกับตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์พอสมควร

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เชิญชวนให้ประชาชนมาชมรายละเอียดงาน Thailand 2020 ก้าวใหม่ เชื่อมไทยสู่โลก ที่จัดแสดงที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 8 - 12 มี.ค. ซึ่งเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท

"รัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็น เป็นแผนการลงทุนของประเทศ นำภาพการลงทุน ทั้งเรื่องการพัฒนาจากการใช้ถนนมาเป็นรถไฟรางคู่ ทำให้ชีวิตประชาชนสะดวกรวดเร็วขึ้นอย่างไรบ้าง ก็อยากเชิญให้ประชาชนมาชมงานนี้ให้มากๆ เรียกว่าเป็นอนาคตของประเทศไทย ในปี 2020"นายกรัฐมนตรีกล่าว