posttoday

เฉลิมปัดตีปี๊บก่อการร้าย

13 กุมภาพันธ์ 2556

ร.ต.อ.เฉลิมยันข่าวอัลกออิดะห์โจมตีสถานกงสุลสหรัฐที่เชียงใหม่ไม่ใช่โฆษณาแต่หนังสือพิมพ์เลอะเทอะ

ร.ต.อ.เฉลิมยันข่าวอัลกออิดะห์โจมตีสถานกงสุลสหรัฐที่เชียงใหม่ไม่ใช่โฆษณาติงหนังสือพิมพ์เลอะเทอะ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีเสียงวิจารณ์หลังออกมาให้สัมภาษณ์ ข่าวกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ เตรียมโจมตีสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ว่า ได้รับรายงานตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.จึงได้สั่งการ ไม่มีข่าว แต่ผู้สื่อข่าวเก่งเอาเรื่องนี้มาถามจึงบอก ไม่ใช่โฆษณา แต่หนังสือพิมพ์เลอะเทอะ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.พ. เวลา 12.40น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวของสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ และได้สั่งพล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ให้ดูแลตั้งแต่วันที่ 6 กพ. ส่วนแหล่งข่าวจะเชื่อถือได้หรือไม่ คิดว่าถึงเชื่อไม่ได้เราก็ต้องระวัง ขณะที่ทางผบช.ภ.5 ยืนยันมาแล้วว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด งานนี้หากเราป้องกันได้จะดี ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุเกิดก่อน

เมื่อถามว่า สาเหตุอะไรทำให้กลุ่มดังกล่าวร่วมกันลงมือ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า มีสาเหตุหลายอย่าง แต่ต้องขอเป็นความลับ แต่เป็นเรื่องจริงที่ตนได้สั่งด้วยวาจา ทำทุกอย่างให้ได้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ เมื่อถามว่า ได้มีการประสานกับแหล่งข่าวต่างประเทศด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ได้เป็นรายงานข่าวจากต่างประเทศ แต่เป็นรายงานข่าวจากในประเทศ และข่าวในทำนองนี้มีมานานแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าเป็นอันตราย

เมื่อถามว่า จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการฝึกคอบบร้าโกลด์ 13 ประจำปี 2013 ที่ไทยร่วมฝึกกับสหรัฐฯหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบเพื่อเป็นการรักษาชั้นความลับ เมื่อถามว่า ข่าวทั้งหมดเป็นข่าวที่กรองหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ค่อนข้างพึงระมัดระวัง ซึ่งก็ต้องดูแลเรื่องนี้จนกว่าการฝึกคอบร้าโกลด์จะสำเร็จ เมื่อถามว่า จะต้องมีการดูแลรักษาความปลอกภัยเข้มข้นระดับไหน รองนายกฯกล่าวว่า เราต้องระมัดระวังให้ดีที่สุด จะรักษาความปลอดภัยขั้นไหนขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ แต่ตนได้เตือนเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าอย่าให้เกิดเหตุ ต้องมีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ขณะเดียวกันผบช.ภ. 5 ค่อนข้างชินกับพื้นที่ และมีการรายงานให้ตนทราบเป็นระยะๆ

รองนายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อท่องเที่ยว และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ระหว่างวันที่ 13 - 15 ก.พ.