posttoday

สมช.เผยกลุ่มจ้องบึ้มกงสุลสหรัฐออกนอกพื้นที่แล้ว

13 กุมภาพันธ์ 2556

แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เผย สมาชิกอัลกออิดะห์ที่จ้องก่อเหตุในสถานกงสุลสหรัฐที่เชียงใหม่ออกจากไทยไปกบดานในมาเลเซียแล้ว

แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เผย สมาชิกอัลกออิดะห์ที่จ้องก่อเหตุในสถานกงสุลสหรัฐที่เชียงใหม่ออกจากไทยไปกบดานในมาเลเซียแล้ว

ความคืบหน้ากลุ่มก่อการร้ายที่จะเข้ามาก่อความไม่สงบสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่นั้น แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไทย ระบุว่ามีการติดตามการเดินทางมาของสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์จริง แต่มีการเดินทางเข้ามาเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยได้มีการติดตามพฤติกรรมของสมาชิกคนดังกล่าว เบื้องต้นได้มีการเดินทางออกจากประเทศไทยไปกบดานที่ประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจสันติบาลมาเลเซียกำลังที่จะควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ต่อไป

ทั้งนี้ ทางสถานกงสุลสหรัฐประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพียงหวังที่จะเป็นการกระตุ้นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของไทยให้กับทางสถานทูตเท่านั้นและสถานกงสุลแห่งก็ไม่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษแต่อย่างใด นอกจากนั้นเหตุการณ์ที่จะมีการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ยังอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกผสมร่วมคอบบร้าโกลด์ที่เข้ามาฝึกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยในการจำสถานการณ์การก่อการร้าย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเปิดบริการทำวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปสหรัฐตามปกติ

ด้านพล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ทางตำรวจได้เพิ่มกำลังตำรวจในเครื่องแบบ 4-5 คนในการเฝ้าหน้าสถานกงสุลสหรัฐ ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง และมีกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบในการดูแลความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนั้นยังกำชับให้มีการตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ตามบ้านเช่า เกสต์เฮ้าส์ และร้านเช่ารถ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว และยังช่วยในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ขณะที่พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุถึงกรณีที่มีกลุ่มอัลกออิดะห์ เตรียมก่อเหตุที่สถานกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยยอมรับว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งได้รับข่าวมาจากประเทศพันธมิตร และขณะนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ทั้งนี้ กลุ่มที่เตรียมก่อเหตุมีเพียงกลุ่มเดียว หรือมีการเพิ่มการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น