posttoday

"ราตรี"พบนายกฯขอเร่งช่วย"วีระ"พ้นคุกเขมร

11 กุมภาพันธ์ 2556

"ราตรี"ขอบคุณนายกฯเจรจาจนได้รับอิสระภาพวอนเร่งช่วย "วีระ" พ้นคุก "ยิ่งลักษณ์" รับปากเสนอเขมร 2 แนวทางลดโทษ

"ราตรี"ขอบคุณนายกฯเจรจาจนได้รับอิสระภาพวอนเร่งช่วย "วีระ" พ้นคุก "ยิ่งลักษณ์" รับปากเสนอเขมร 2 แนวทางลดโทษ  

นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ได้นำน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ภาคีเครือข่ายกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ พร้อมด้วยนพ.กุศล ประวิทย์ไพบูลย์ แพทย์ด้านหู คอ จมูก และน.ส.ปิยนุช ฐิติพัฒนะ อนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการปฏิบัติการยุทธศาสตร์ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

น.ส.ราตรี ได้กล่าวขอบคุณนายกฯ ที่ได้ช่วยเจรจาจนทำให้ได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน และคิดว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่นายกฯได้ทำหน้าที่ดูแลประชาชนรวมถึงดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป นอกจากนี้ อยากให้นายกฯช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด แกนนำ เนื่องจากอยู่ที่นั่นได้รับการละเมิดสิทธิในการได้รับข่าวสารข้อมูล ไม่ได้รับอนุญาตให้อ่านหนังสือ แม้แต่หนังสือที่จะช่วยผ่อนคลายจิตใจ ซึ่งเป็นสิทธิที่นักโทษจะได้รับ แต่นายวีระถูกจำกัดในเรื่องนี้

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบน.ส.ราตรี เพราะมีความรู้สึกว่าอย่างน้อยเป็นผู้หญิงด้วยกัน ก็เข้าใจเห็นใจในความลำบาก ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่รัฐบาลในการดูแลประชาชนทุกคน จริงๆพยายามขอตั้งแต่ครั้งแรกในการเจรจาแล้ว ก็ยังรู้สึกเสียดายที่อยู่ที่กัมพูชาหลายเดือน กว่าจะได้รับการปล่อยตัว อย่างน้อยดีใจที่น.ส.ราตรี ได้กลับบ้าน หมดทุกข์หมดโศก หลังจากนี้ถ้ามีอะไรที่รัฐบาลจะช่วยดูแลได้ก็ยินดี

“เรียนว่าเราพร้อมในการทำงานร่วมกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนการช่วยเหลือนายวีระ เราได้ยื่นขอไปแล้ว 2 รูปแบบ ทั้งขอการลดหย่อนอีก ซึ่งกัมพูชาบอกให้รอเฉพาะช่วงที่มีเทศกาล และการขอนำตัวกลับมารับโทษที่เมืองไทย โดยกัมพูชาบอกว่าขอดูฐานความผิด เรียนว่าทำอย่างเต็มที่ ซึ่งทางโน้นเขาทราบอยู่แล้ว ระหว่างนี้จะให้เราช่วยอะไรสำหรับครอบครัวนายวีระ หรืออะไรต่างๆ ขณะนี้เท่าที่ทราบทูตไทยประจำกัมพูชาได้ประสานงานอยู่แล้ว เผื่อว่ามารับฟังข้อเท็จจริงจากน.ส.ราตรี ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร จะได้มารับฟังด้วยกันว่าจะมีอะไรมาปรับปรุงประสานงานเพื่อเป็นหลักการในการคอยช่วยเหลือคนไทย ไปอยู่ที่นู้นแล้วติดขัดอะไร เผื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศจะได้ทำงานได้ใกล้ชิดและมีความเข้าอกเข้าใจขึ้น”น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

จากนั้น เวลา 14.30 น.ส.ราตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือนายกฯอีกครั้ง ว่า ได้มาหารือเรื่องการช่วยเหลือนายวีระ โดยนายกฯได้ระบุว่าได้มีการนำเสนอช่องทางการช่วยเหลือไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว แต่การหารือในวันนี้ (11ก.พ.) คือเรื่องช่องทางการนำตัวนายวีระมาคุมขังที่ประเทศไทย ซึ่งขณะนี้นายวีระได้สิทธิ์ในการโอนตัวมาประเทศไทยแล้ว

ทั้งนี้ นายกฯไม่ได้รับปากว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่นายวีระจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ แต่ระบุว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ได้ขอให้นายกฯดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติ และขอให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งนายกฯก็รับปาก 

“มองว่าเรื่องดังกล่าวทำให้รู้สึกเหมือนเรากลายเป็นเหยื่อทางการเมืองของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งไปในพื้นที่ของฝ่ายไทย ไม่ได้ไปในพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชา และมีหลักฐานยืนยัน ส่วนรัฐบาลในขณะนั้นมีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ มีหน้าที่ต้องนำหลักฐานมายืนยัน ซึ่งเราก็ทำหลักฐานไปยืนยัน แต่รัฐบาลขณะนั้นไม่ได้ช่วยในการยืนยันข้อมูลหลักฐาน ณ วันนั้นถึงวันนี้เรายังยืนยันว่า เราเข้าไปในเขตแดนของประเทศไทย ไม่ใช่แม้กระทั้งพื้นที่ทับซ้อน”น.ส.ราตรี กล่าว

เมื่อถามต่อว่า ในวันที่ถูกปล่อยตัวออกมา นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ไปรับที่สนามบินสุรรณภูมิได้มีการพูดคุยอะไรกันหรือไม่ น.ส.ราตรี กล่าว่า ในวันดังกล่าวได้มีการกล่าวแสดงความยินดี แต่ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมาก

ส่วนหลังจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวอะไรอีกหรือไม่ น.ส.ราตรี กล่าวว่า พูดได้คำเดียวว่าอุดมการณ์ไม่ลดลง และจะคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า ไม่ได้คาดหวัง รู้ว่าเราทำหน้าที่ของพลเมืองในประเทศอย่างเต็มที่ สำหรับการเคลื่อนไหวในประเทศเกี่ยวกับประเด็นปราสาทพระวิหารจะมีต่อไปหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้

เมื่อถามต่อว่า จากการคุยกันนักกฎหมายของกัมพูชาหากมีการกระทำผิดลักษณะเดิมจะไม่ได้รับโทษจะหนักขึ้นอีก น.ส.ราตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะเดินไปให้เขาจับอีก