ถาวรหอบหลักฐานยื่นปปช.เอาผิด"ชัจจ์"
"ถาวร" หอบหลักฐานแจงเพิ่ม "ป.ป.ช." เอาผิด "ชัจจ์" งบขุดลอกคูคลอง 1.5 พันล้าน จี้ "ชัชชาติ " ตรวจสอบยกเลิกสัญญา
"ถาวร" หอบหลักฐานแจงเพิ่ม "ป.ป.ช." เอาผิด "ชัจจ์" งบขุดลอกคูคลอง 1.5 พันล้าน จี้ "ชัชชาติ " ตรวจสอบยกเลิกสัญญา
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า จากกรณีที่ได้ยื่นถอดถอน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็น รมช.คมนาคม กำกับดูแลกรมเจ้าท่า เพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบกลาง 1.2 แสนล้านบาท ในส่วนของ งบ 1,500 ล้านบาท ขุดลองคูคลองด้วยวิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ใน 7 ลุ่มน้ำ คือ ปิง วัง ยม น่าน ชี มูล และ ป่าสักงบ 1,200 ล้านบาท และ ขุดลอกคลองทวีวัฒนา สันดอนแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา 200 กว่าล้านบาท
ทั้งนี้ จากการติดตามตรวจสอบการใช้เงินดังกล่าว พบว่า หลังจาก ครม.อนุมัติงบแล้ว กลับใช้เวลากว่า 50 วัน กว่าจะเริ่มต้นจัดซื้อจัดจ้าง เพราะฉะนั้นการอ้างอ้างว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนของพ.ต.ท.ชัจจ์จึงส่อพิรุธ และเมือติดตามไปเรื่อยปรากฏว่าการดำเนินการขุดลอกคูคลองทั้งหมด 1 โครงการ 26 รายการเป็นการจัดซื้อจัดจางด้วยการวิธีพิเศษทั้งหมด
"พ.ต.ท.ชัจจ์ ในฐานะรัฐมนตรีเซ็นจัดซื้อจัดจ้าง 16 สัญญา อีก 10 สัญญาเป็นอำนาจของรองปลัดกระทรวงที่รักษาการปลัดกระทรวงเป็นผู้ลงนาม เมื่อลงไปดูในรายละเอียดพบว่าส่อทุจริตจึงมีการรวบรวมเอกสารหลักฐานได้สัญญามาทั้งหมด 26 สัญญา เมื่อพบรายละเอียดทั้งหมดแล้วจึงมีการยื่นถอดถอน และอภิปรายไม่ไว้วางใจ"นายถาวรกล่าว
นายถาวร กล่าวว่า ในวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหนังสือเชิญตนไปให้ถ้อยเอยคำในชั้นไต่สวน ซึ่งวัน ที่ 22 ม.ค.นี้ เวลา 13.00 น.ตนเองเดินทางไปชี้แจง โดยจะนำร่างคำให้การไปยื่นป.ป.ช.ซึ่งทราบว่าอนุกรรมการชุดนี้ประกอบด้วยนายกล้าณรงค์ จันทิก และนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ต้องการเร่งรัดสอบสวนโดยเร็ว ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐานที่มี และขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดดำเนินการอย่าล่าช้า เพราะจะกระทบความเชื่อถือ เชื่อมั่นต่อ ป.ป.ช.เอง รวมถึงกระบนการตรวจสอบ หากล่าช้าผู้ทุจริตจะย่ามใจหรือตกอยู่กับการประวิงเวลาของผู้ถูกร้อง
นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม คนปัจจุบันให้ตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อจัดจางที่อาจเข้าข่ายส่อฮั้วประมูล จึงขอให้คมนาคมทำการเร่งตรวจสอบ และบอกเลิกสัญญาจัดจ้างเพราะเป็นสัญญาจ้างที่ส่อโมฆะตั้งแต่ต้น รวมทั้งให้ระงับการจ่ายเงินทั้งหมด ซึ่งอยากทราบว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวดำเนินการคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว รวมทั้ง ยังทำหนังสือไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ลงไปตรวจสอบตั้งข้อสังเกตระงับยับยั้งไปยังกระทรวงคมนาคมว่าอาจส่อทุจริต และขอให้ไม่ตรวจรับการจ้าง และขอให้หากพบการกระทบทุจริตไม่ว่าจะหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนก็ขอให้ดำเนินการเอาผิดด้วยอย่าได้ละเว้น
“ผมมั่นใจว่าการกระทำครั้งนี้ผิดกฎหมายคือ 1. การออกทีโออาร์ 2.การเรียกบริษัทให้มาเสนอสี่บริษัทที่ส่อลักษณะฮั้วงาน 3.ทั้ง 14 บริษัทมีการผลัดเปลี่ยนกันได้งาน ผลัดเปลี่ยนเป็นบริษัทประกบเพื่อประมูลงาน 4.ราคาจัดจ้างวิธีพิเศษอีออกชั่น มีราคาแพงกว่าปรกติ 40% ทั้ และยังพบว่าใน 14 บริษัท มีบริษัทนอมีนีการเมืองในรัฐบาล"นายถาวรกล่าว