posttoday

ครม.ไฟเขียว8ยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ

21 มกราคม 2556

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจ.อุตรดิตถ์ เห็นชอบ 8 ยุทธศาสตร์ปีงบ 57 พร้อมไฟเขียว รฟม. กู้เงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-เขียว

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจ.อุตรดิตถ์ เห็นชอบ 8 ยุทธศาสตร์ปีงบ 57 พร้อมไฟเขียว รฟม. กู้เงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-เขียว

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบยุทธศาสตร์จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 8 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์เร่งรัดการพัฒนาประเทศ และเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน ยุทธศาสตร์การศึกษา คุณธรรม จริยธรรม คุณภาพชีวิต และความเท่าเทียมกันในสังคม ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ส่วนงบลงทุนเบื้องต้นของปีงบประมาณ 2557 จำแนกเป็นค่าครุภัณฑ์ 148,810 ล้านบาท ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง 415,440 ล้านบาท และงบลงทุนประมาณ 1.05 ล้านล้านบาทนั้น ในวันที่ 22-24 มกราคม 2556 รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบหรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดจะมอบนโยบายให้กระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น จัดทำเป้าหมายและยุทธศาสตร์กระทรวงที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ และให้นำข้อสรุปแผนความต้องการงบลงทุนเบื้องต้น ไปจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี

นพ.ทศพร กล่าวว่า คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้เงินในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 16,217 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าก่อสร้างงานโยธา ค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างงานโยธาและระบบรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ จำนวน 11,472 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 4,745 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นงบชำระหนี้ให้แก่ รฟม. เพื่อใช้ชำระหนี้คืนแก่แหล่งเงินกู้โดยตรงทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ รฟม.ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ Japan International Cooperation Agency (JICA) โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้กู้เงินและชำระหนี้แทน รฟม. จากนั้น รฟม.จะต้องลงนามในสัญญารับชำระหนี้แทนกับกระทรวงการคลังต่อไป โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของอัตราแลกเปลี่ยนและต้นทุนในการปรับโครงสร้างหนี้ และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นงบชำระหนี้ให้แก่ รฟม. เพื่อใช้ชำระคืนแก่แหล่งเงินกู้โดยตรงทั้งในส่วนเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง