ปิดฉากคดีเสื้อแดงส่งอีเมล์ข่มขู่นักข่าวช่อง7

สิ้นสุดแล้ว!คดีเสื้อแดงส่งอีเมล์ข่มขู่ "สมจิตต์" นักข่าวช่อง หลังผู้พิพากษาไม่เซ็นรับรองให้ยื่นอุทธรณ์

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีที่ถูก น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเพชรบุรี ส่งอีเมลข่มขู่ปองร้าย โดยระบุว่าคดีดังกล่าวได้สิ้นสุดแล้ว หลังจากที่  ผู้พิพากษาชั้นต้นได้วินิจฉัยคำอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาในคดีนี้และมีคำสั่งไม่เซ็นรับรองให้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ด้วยเหตุผลว่า ข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาสำคัญอันควรที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป

น.ส.สมจิตต์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ นายกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ นายพิษณุ ทิพย์รอด ผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิต มีความเห็นยกฟ้องเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.โดยระบุว่า คดีดังกล่าว น.ส.พรทิพย์ มิได้ส่งข้อความไปถึง น.ส.สมจิตต์ โดยตรง แต่เป็นการส่งข้อความผ่านบุคคลต่างๆ รวม 47 คน จึงไม่เข้าองค์ประกอบกฎหมายอาญามาตรา 392 ที่บัญญัติว่า "ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษ

ทั้งนี้องค์ประกอบของความผิดนี้ผู้กระทำผิดจะต้องมีเจตนาขู่เข็ญต่อผู้เสียหายโดยตรง และประสงค์ต่อผลโดยทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจ ดังนั้น การที่จำเลยส่งข้อความไปยังบุคคลจำนวน 47 คนดังกล่าว โดยไม่ได้ส่งถึง น.ส.สมจิตต์ โดยตรง จึงมิใช่เป็นการขู่เข็ญแต่เป็นเพียงการส่งข้อความภายในของกลุ่ม น.ส.พรทิพย์ เท่านั้น คดีจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายมาตรา 392

"กราบขอบพระคุณสภาทนายความและ คุณกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ที่สละเวลาช่วยทำคดีนี้ให้ ไม่ว่าผลเป็นอย่างไรพร้อมน้อมรับ เพราะนี่คือกติกาที่จะทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คือ ถูกผิดให้ตุลาการตัดสินไม่ใช่ความรู้สึกหรือใช้เสียงข้างมากมาชี้ถูก ชี้ผิด เพราะเสียงข้างมากบอกได้แค่ความต้องการเท่านั้น จบซะทีก็ดีค่ะ ชีวิตมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ"น.ส.สมจิตต์ระบุ