posttoday

สมชายเปิดบ้านอวยพรปีใหม่สส.-ขรก.พรึ่บ!

03 มกราคม 2556

สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เปิดบ้านพักปีใหม่ อวยพรเพื่อไทย ครองอำนาจยาว ด้าน จารุพงศ์รับแก้รธน.ยากมีอุปสรรคซ่อนเร้น

สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เปิดบ้านพักปีใหม่ อวยพรเพื่อไทย ครองอำนาจยาว  ด้าน จารุพงศ์รับแก้รธน.ยากมีอุปสรรคซ่อนเร้น

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักย่านแจ้งวัฒนะ ให้นักการเมืองและข้าราชการที่ให้ความเคารพ เข้าอวยพรปีใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการ อสมท.โดยนายสมชาย พร้อมด้วย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา ได้รับช่อดอกไม้ด้านหน้าประตูบ้านพัก และเชิญให้ผู้ที่มาอวยพรปีใหม่รับประทานอาหารที่จัดไว้รอบบริเวณบ้าน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้ามอบกระเช้าและอวยพรปีใหม่แก่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้กล่าวถึงความรู้สึกในวันนี้ ว่า นายสมชาย เป็นบุคคลสำคัญที่ควรเคารพนับถือ ซึ่งที่ผ่านมานายสมชาย คอยให้คำปรึกษาและให้กำลังใจมาโดยตลอด จึงถือโอกาสนี้อวยพรปีใหม่และรับพรจากนายสมชาย ด้วย

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า นายสมชายได้กล่าวกับตนว่า ขออวยพรให้ทุกคนในพรรคเพื่อไทยมีกำลังใจในการทำงาน และขอให้ทำงานให้ดีที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า พรรคจะสามารถทำงานได้ดี ที่ผ่านมาก็ทำงานได้ดีแล้ว ถ้าทำได้ตามที่ได้วางแผนกันไว้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ เป็นรัฐบาลไปอีกยาวนาน ส่วนตัวก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษา หากเห็นว่าคำปรึกษาของตนเป็นประโยชน์กับการทำงานของพรรค

นอกจากนี้ นายจารุพงศ์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการลงประชามติ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องยากและมีอุปสรรคซ่อนเร้นในกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ให้เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง โดยจะต้องมุ่งเน้นไปที่ความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนเป็นหลัก แต่ขณะนี้ทางพรรคยังไม่มีบทสรุปชัดเจนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญไปในทิศทางใด

ด้าน นายสมชาย กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การทำประชามติเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งที่ผ่านมากระบวนการแก้ไข เป็นกลไลตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้น หากประชามติไม่ผ่านความเห็นชอบ ก็ไม่เห็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะสามารถแก้ไขเป็นรายมาตรา ตามความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า การทำประชามติเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้ 24 ล้านเสียง และมองว่าการรณรงค์ให้ประชาชนไม่ออกมาใช้สิทธิ์การทำประชามติไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปัจจุบันประชาชนมีความรู้และให้ความสำคัญกับสิทธิของตัวเองมากขึ้น

นายสมชาย ยังมองสถานการณ์การเมืองไทยปี 2556 ว่า ในฐานะประชาชน อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ทุกคนยึดกติกาเป็นหลัก จึงมั่นใจว่าการเมืองไทยจะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายของประชาธิปไตย แต่รัฐบาลและฝ่ายการเมือง ต้องทำงานหนักต่อไป และเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนเก่ง ไม่จำเป็นต้องมีใครอยู่เบื้องหลังก็สามารถทำงานได้ ส่วนอนาคตทางการเมืองของตนเอง ขณะนี้ยังไม่คิดและไม่ให้ความสำคัญกับตำแหน่ง เพียงให้คำปรึกษาก็เพียงพอ