posttoday

เปิดตัวพลทหารพิทักษ์สยามร่วมม็อบเสธ.อ้าย

23 พฤศจิกายน 2555

ทบ. สั่งผบ.ร้อยเรียกตัว คุยหลังโพสต์ เฟซบุ๊ก ข้องใจผบ.ทบ.ห้ามทหารชุมนุม “รองโฆษก” ยันไม่ลงโทษ ด้าน "พลทหารสไปร์ท”แกนนำปิดเฟซบุ๊กหลังถูกสอบ โพสต์สุดท้ายบอก "งานเข้า "

ทบ. สั่งผบ.ร้อยเรียกตัว คุยหลังโพสต์ เฟซบุ๊ก ข้องใจผบ.ทบ.ห้ามทหารชุมนุม “รองโฆษก” ยันไม่ลงโทษ ด้าน "พลทหารสไปร์ท”แกนนำปิดเฟซบุ๊กหลังถูกสอบ โพสต์สุดท้ายบอก "งานเข้า "

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยกรณีที่พลทหาร 4 นายที่ใช้ชื่อว่า “คณะทหารพิทักษ์สยาม” แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กคัดค้านคำสั่งผู้บัญชาการทหารบกที่ไม่ให้ทหารร่วมการชุมนุม ว่า กำลังพลดังกล่าวเป็นพลทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 151 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นการแสดงออกในเรื่องส่วนตัวโดยใช้ช่องทางของการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก แต่น้องๆที่แสดงออกอาจไม่เข้าใจนโยบายของกองทัพบกเพราะเพิ่งเข้ามารับราชการทหารเพียง 5 เดือนเท่านั้น อายุเพียง 21 ปี ซึ่งการแสดงออกดังกล่าวเป็นการสื่อสารแต่ไม่ได้มีเจตนาจะเข้าร่วมชุมนุม ถือว่าความคิดยังน้อยเมื่อเทียบกับผู้บังคับบัญชาที่มีมุมมองหลายมิติ เพราะการแสดงออกมี 2 สถานะ คือ ในฐานะที่เป็นประชาชน และฐานที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งถือว่าสำคัญกว่า

“ตอนนี้ทหารมีความสุ่มเสี่ยงเรื่องการออกแสดงทางการเมือง เพราะมีกลุ่มคนที่มีอคติ และพยายามหยิบยกเอาเรื่องเหล่านี้มาโจมตีกองทัพ ซึ่งเรื่องดังกล่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้ว่าอะไร แต่ได้ให้ผู้บังคับบัญชาไปทำความเข้าใจร่วมกับน้อง ๆ ขอเน้นย้ำว่าไม่มีการลงโทษใด ๆ ซึ่งต้องเข้าใจว่าการแสดงออกมีอยู่ 2 ลักษณะคือ ด้านความคิด และ ด้านปฏิบัติ ซึ่งด้านความคิดนั้นเราไม่สามารถไปห้ามความคิดเขาได้ และการแสดงออกผ่านเฟซบุ๊คเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ถือว่าเป็นความคึกคะนองอะไร” พ.อ.วินธัย กล่าว

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หน่วยข่าวกองทัพบกยังไม่ได้รับรายงานกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามจะเกิดความรุนแรง โดยเฉพาะการใช้อาวุธสงคราม เอ็ม-79 สร้างสถานการณ์ สำหรับสถานการณ์การชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้กองทัพบกยังได้จัดเตรียมกำลังจากกองพันสารวัตรทหารบก (สห.) จำนวน 150 นาย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นจะอยู่ในหน่วยที่ตั้งจนกว่าจะได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านพลทหารสไปร์ท ณ วังหลัง ซึ่งเป็นนามสมมุติที่ใช้ในเฟซบุ๊ก ในฐานะแกนนำกลุ่มทหารพิทักษ์สยาม กล่าวยอมรับว่า ตนพร้อมเพื่อนพลทหารเมื่อเห็นกองทัพบกมีคำสั่งไม่ให้ทหารเข้าไปร่วมชุมนุม ทั้งๆ ที่ทหารคือประชาชน และ มีสิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตยจึงได้นั่งคุยกับเพื่อน และรุ่นน้องหลายคน มานั่งคิดว่า มาออกแถลงการณ์และถ่ายรูป เพื่อแสดงให้เห็นว่าทหาร แม้แต่พลทหารควรจะมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย ที่สำคัญไม่ว่าเกิดปัญหาใดในบ้านเมือง ในที่สุดทหารก็จะเป็นที่พึ่งเป็นหน่วยที่แก้ไขปัญหาเสมอ
แถลงการณ์ที่ตนอ่าน 5 ข้อและเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่เรื่องผิดระเบียบวินัย เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็น ตามระบอบประชาธิปไตย ที่สำคัญคือการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และการแสดงออกในฐานะของความเป็นทหาร ตนไม่ได้มาสนับสนุนม็อบ เสธ.อ้าย แต่สนับสนุนประชาธิปไตย และต่อต้านการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่าย

“ ผมเพิ่งสมัครใจเข้าเป็นทหาร 1 ปี โดยเพิ่งเข้าประจำการได้ 5 เดือน หน้านี้ผมสนใจการเมือง อยู่กลุ่มเคลื่อนไหว แต่ยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ เสื้อสีไหน หรือทหาร หรือพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแม้จะเป็นคนชุมพร แต่ผมไม่ได้ฝักใฝ่พรรคการเมือง หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ผมมาสมัครเป็นทหาร เพราะผมอ่านหนังสือ ติดตามการเมือง ดูข่าว และเห็นบทบาทที่สำคัญของกองทัพ จึงอยากมาเป็นทหาร และผมตั้งใจว่าเมื่อครบเกณฑ์ผมจะสมัครเป็นทหารต่อไป ผมรู้จักกับ พล.อ.ร่มเกล้า และ นางนิชา ธุวธรรม ใกล้ชิดสนิทสนมมาก รักผมเหมือนลูก ทั้งที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ค และ มาเจอกันในระยะหลัง ผมก็เคารพท่านเหมือน พ่อและแม่ เพราะทั้งสองท่านก็เอ็นดูผมเพราะไม่มีลูก” พลทหาร สไปร์ท กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่กองทัพบกตรวจสอบพบว่า พลทหารทั้ง 4 นายเป็นกำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 151 จนถูกผู้บังคับกองร้อยเรียกตัวไปพูดคุยนั้น เฟซบุ๊กของพลทหารสไปรท์ก็ได้ปิดตัวลงไม่สามารถติดต่อได้อีก และไม่สามารถพูดคุยติดต่อทางโทรศัพท์ได้ โดยก่อนที่พลทหารสไปร์ทจะขาดการติดต่อไปได้โพส ข้อความว่า “พลเอกดาว์พงษ์ โทรมาให้ผมรักษาตัวให้ดี” ก่อนที่จะโพสข้อความสุดท้ายก่อนจะปิดเฟซบุ๊คว่า “ให้ไปเยี่ยมผมด้วย งานเข้าแล้ว”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สังคมเฟซบุค ได้แชร์ภาพ "พลทหารสไปร์ท" และเพื่อนๆ และโพสต์ภาพเดี่ยว พร้อมประกาศแสดงเจตนารมณ์ สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ในนาม ของ "ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์" พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ออกมาใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทย ผู้รักชาติ พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ ว่า

แถลงการณ์คณะทหารพิทักษ์สยาม ฉบับที่ 1 เนื่องด้วยกรณีการเคลื่อนไหวของ “องการณ์พิทักษ์สยาม” ในการแสดงพลังปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในวันที่ 24  ที่จะถึงนี้ ทางคณะของเราได้เล็งเห็นว่า เป็นการแสดงออกได้ตามสิทธิ ในรัฐธรรมนูญโดยสุจริต ตราบใดที่ผู้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของกฎหมาย และไม่ได้กระทำความรุนแรงวุ่นวายในสังคม เราขอคัดค้านการกระทำใดๆที่กระทำจากรัฐในกรณีที่จะใช้ความรุนแรง ในการสลายการชุมนุมเคลื่อนไหวของประชาชน ซึ่งใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นที่แน่นอนได้ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสงบ สันติ และ อหิงสา ตามแนวทางการต่อสู้ ของอารยะชน และ จึงขอแสดงจุดยืนเรียกร้องต่อคณะทหาร ข้าราชการ พ่อค้า นักเรียนนักศึกษา และประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย และพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ดังต่อไปนี้

1.เราทุกคนพร้อมที่จะสละชีวิตเป็นชาติพลี เพื่อปกป้องสถาบันที่รักยิ่งของเราได้ทุกเมื่อ
2.เราจะขอพิทักษ์ปกป้องระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขอย่างสุดกำลัง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้มีเจตนา ที่จะล้มล้างระบอบการปกครองแต่อย่างใด
3.เราขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยฝ่ายใดก็ตาม
4.หากสถานการณ์ในชาติบ้านเมืองเป็นไปด้วยความรุนแรง จนเกิดการกลียุคที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ ทางเครือข่ายพร้อมที่จะเรียกพี่น้องทหาร เยาวชน และมวลมหาประชาชนออกมาพิทักษ์ชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยวิธีการที่เป็นไปโดยสันติวิธี
5.ขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะพลังเงียบ และผู้ที่ไม่ฝักฝ่ายใด ได้ออกมาแสดงพลังแห่งความรักชาติ สลายสีเสื้อรวมใจไทยเป็นหนึ่งเดียว

การออกแถลงการณ์ครั้งนี้ เราไม่ได้เผยชื่อกรมกองแต่อย่างใด “คณะทหารพิทักษ์สยาม” ได้แสดงออกในนาม ของ “ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ ในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น “ เพราะเราคือประชาชน และคือลูกหลานประชาชน เราพร้อมที่จะยืนเคียงข้างประชาชนเสมอและทุกเมื่อ เราเห็นว่า ทหารควรมีส่วนร่วมในการแสดงออกทางการเมือง และสรรสร้างประชาธิปไตยไปพร้อมๆกับประชาชน สุดท้ายนี้ ขอเดชะพระบารมีปกเกล้า คุ้มครองพี่น้องประชาชน ที่จะออกมาแสดงพลังในการ”พิทักษ์สยาม” ให้บรรลุถึงผลสำเร็จด้วยทุกประการ”เรามาในนามประชาชน นอกเวลาราชการ”

"ใช้สิทธิตามสมควรที่ระบุไว้ ในรัฐธรรมนูญแห่งพระราชอาณาจักรไทย”

ด้วยจิตคารวะ
คณะทหารพิทักษ์สยาม วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2555