สมคิดแนะไทยรักษาสมดุลสัมพันธ์สหรัฐ-จีน

"สมคิด" แนะไทยรักษาสมดุลความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ชี้เจรจา"ทีพีพี"ผู้นำต้องทันเกมมหาอำนาจหากไม่อยากให้ชาติเสียประโยชน์   

สมคิด

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ศาสตราภิชาน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) และอดีตรมว.คลัง กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้และกำหนดการเดินทางมาเยือนไทยของผู้นำจีนที่กำหนดจะมาถึง ถือเป็นเรื่องที่มีนัยยะสำคัญต่ออนาคตของไทย เนื่องจากทั้ง 2 ชาติล้วนมีนัยยะทางการเมืองและเศรษฐกิจแฝงอยู่ 

ดังนั้น จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำไทยจะต้องหาจุดสมดุลในการรักษาความสัมพันธ์กับทั้ง 2 ประเทศ สำหรับการเจรจาเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นกลไกที่สหรัฐพัฒนาขั้นมาเพื่อถ่วงดุลจีน จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและกระทรวงต่างประเทศต้องเตรียมความพร้อมทำแผนรับมือเพื่อไม่ให้ชาติเสียผลประโยชน์

"มีคนถามว่าเราไม่เจรจาทีพีพีได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ เพราะไทยจำเป็นต้องเกาะทั้งจีนและสหรัฐเอาไว้ แต่การเจรจากับยักษ์ใหญ่นั้นเหนื่อยมาก เราไม่สามารถปฎิเสธตรงๆได้ สมัยผมเป็นรัฐมนตรีบินไปเจรจากับเขาแต่ละทีเหมือนคุยกับฮ่องเต้ ดังนั้นเราต้องคิดหาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าว่าเล่นละครอย่างไร เตรียมบทไว้ ผู้นำทางการเมืองจะต้องรำกับสหรัฐให้ได้ ถ้าจีนมาก็ต้องรำกับจีน" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า การพยายามเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคอาเซียนของมหาอำนาจ สะท้อนให้เห็นว่าจากนี้อาเซียนจะก้าวขึ้นมามีบทบาทที่สำคัญมากขั้น ไทยจึงควรใช้จังหวะนี้ปฎิรูปตนเองเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ ด้วยการสร้างการลงทุนแบบมหภาคเพื่อกระจายความมั่งคั่งสู่เศรษฐกิจระดับล่างอย่างยั่งยืน เพราะการแก้ปัญหาความยากจนไม่ใช่ใช้ประชานิยมเอาเงินไปใส่มือเขาแล้วจบ

"ไทยกำลังตีโจทย์ทฤษฎีของฝรั่งที่บอกว่าเมื่อส่งออกมีปัญหาให้กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศชดเชยแบบผิดๆ การใช้ประชานิยมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นและทำเพื่อรักษาฐานเสียงของตัวเอง ทำให้ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาไทยขาดดุลไปแล้ว 2 ล้านล้านบาท แลกกับจีดีพีที่โตขึ้น 2.6 % เท่ากับเราแทบไม่ได้อะไรเลย ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องพึ่งการลงทุน" นายสมคิด กล่าว