นายกฯดูแผนจัดการแม่น้ำเทมส์หวังใช้รับมือน้ำท่วมไทย

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมระบบรถไฟความเร็วสูง ของสหราชอาณาจักร ก่อนดูงานป้องกันน้ำท่วมแม่น้ำเทมส์ หวังปรับใช้รับมือน้ำท่วมไทย

เวลา 15.30 น. (14พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมระบบรถไฟความเร็วสูงที่สถานี St.Pancras เพื่อศึกษาดูงานการบริหารระบบรถไฟความเร็วสูงแบบบูรณาการร่วมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นเชื่อมโยงเส้นทางในประเทศและเมืองสำคัญในภูมิภาคยุโรป

โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปประวัติการรถไฟสหราชอาณาจักร การบริหารงานระบบขนส่งมวลชนสหราชอาณาจักรจากผู้บริหารระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเป็นข้อมูลส่งเสริมการสร้างระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทยและเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายเส้นทางคมนาคมทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนภายใต้แนวคิด Connectivity ดังที่สหราชอาณาจักรสามารถวางระบบขนส่งมวลชนได้ครอบคลุมทั่วประเทศและเชื่อมโยงกับเมืองสำคัญต่างๆ ในยุโรปด้วย

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากสถานี St.Pancras Internatoinal ไปยังสถานี Ebbsfleet และสถานี Stratford โดยสถานี Stratford นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมสนามกีฬา Olympic Stadium สถานที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก London Games 2012 จากอาคาร Westfield ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานี Stratford

อนึ่ง สถานีรถไฟความเร็วสูง St.Pancras ดำเนินกิจการโดย London and Continental Railways เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1869 โดยการพัฒนาและปรับปรุงสถานีรถไฟ St.Pancras ใช้งบประมาณสูงถึง 800 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เสร็จสิ้นในปี 2007 โดยมีพิธีเฉลิมฉลองและเปิดให้บริการโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในส่วนของระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง เปิดให้บริการเส้นทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆในยุโรป โดยบริษัท Eurostar ทั้งนี้ สถานีรถไฟ St.Pancras ประกอบด้วยชานลาชารถไฟ 15 ชานชาลา ศูนย์การค้า และสถานีขนส่ง และสถานีรถไฟใต้ดิน ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เป็น “the world’s most wonderful railway station” อีกด้วย

นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมระบบรถไฟความเร็วสูงของสหราชอาณาจักร

จากนั้น เวลา 15.45 น. นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมแนวป้องกันน้ำท่วมแม่น้ำเทมส์ เพื่อดูงานการบริหาร จัดการน้ำ และแนวป้องกันน้ำท่วมของสหราชอาณาจักรทั้งนี้ แนวป้องกันน้ำท่วมของแม่น้ำเทมส์ เป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชนิดเคลื่อนที่ได้ขนาดใหญเป็นอันดับสองของโลก ด้วยเงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท และความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันเสนอแนะและความคิดเห็น เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา โดยสามารถป้องกันกรุงลอนดอนจากน้ำท่วม อันมีสาเหตุจากน้ำทะเลหนุนสูงและยามเกิดพายุนอกชายฝั่งทะเล ที่จะสามารถนำมาปรับใช้กับการจัดทำแนวป้องกันน้ำท่วมของไทย

จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบปะกับนักเรียนและนักศึกษาทุนรัฐบาลไทยและทุนรัฐบาลสหราชอาณาจักร ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาต่างๆ ในกรุงลอนดอน โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมนักเรียนทุนรัฐบาลและนักเรียนไทยอื่นๆ ที่ได้มาศึกษาในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นประเทศที่ได้ผลิตทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของไทย เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีสถาบันการศึกษาที่ติดอันดับโลกจำนวนมาก และมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของไทย โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการแพทย์ ซึ่งสนับสนุนยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมให้ไทยมีความก้าวหน้าด้านการศึกษา วิจัยทางวิทยาศาสตร์ การปรับปรุงระบบคมนาคม การขนส่ง หรือระบบ logistic ต่างๆ และในการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในภูมิภาค (medical hub) ที่มีความจำเป็นกับประเทศของเราเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้ที่เราจะเข้าสู่บริบทของประชาคมอาเซียน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบคติธรรมการเรียนแก่นักเรียน นักศึกษา ว่า ช่วงการเรียนคือช่วงของการเก็บเกี่ยว แต่ไม่ใช่เก็บเกี่ยวเฉพาะวิชาที่เราเรียน เราควรจะรู้ทั้งลึกและกว้าง ทั้งวิชาการและเรื่องรอบตัว เพราะเวลาทำงานไม่ว่าจะกับภาครัฐหรือภาคเอกชน เราต้องนำสหความรู้มาประยุกต์ใช้ ขอให้ใช้โอกาสนี้ฝึกการทำงานร่วมกับคนอื่น เปิดกว้างยอมรับความเห็น รวมทั้งยอมรับความสำเร็จและความผิดพลาดของเพื่อน พี่ และน้อง เพราะทุกคนเมื่อกลับไปทำงานก็จะต้องทำงานร่วมกับกลุ่มคนที่หลากหลาย

ตอนท้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอฝากความคาดหวังกับนักเรียนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนรัฐบาลหรือทุนส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นครีมของประเทศ ในการกลับไปพัฒนาประเทศและท้องถิ่นของตนให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ขอให้นักเรียนไทยทุกคนหมั่นหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพของตนเอง เพื่อจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับกลุ่มนักเรียนไทย อันเป็นการสิ้นสุดภารกิจการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ได้ออกเดินทางจากกรุงลอนดอน โดยเที่ยวบินพิเศษเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 22.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น และมีกำหนดเวลาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 16.50 น. วันที่ 15 พ.ย. 2555 ตามเวลาประเทศไทย