posttoday

เสธอ้ายจับมือประสงค์ไล่รัฐบาล

26 ตุลาคม 2555

ประสงค์ร่วมม็อบเสธอ้าย 28 ต.ค. ลั่นเปลี่ยนสนามม้าให้เป็นสนามกู้ชาติ ปัดเป็นอีแอบ โวแผนชุมนุม 2 ขั้น ล้มรัฐบาล

ประสงค์ร่วมม็อบเสธอ้าย 28 ต.ค. ลั่นเปลี่ยนสนามม้าให้เป็นสนามกู้ชาติ ปัดเป็นอีแอบ โวแผนชุมนุม 2 ขั้น ล้มรัฐบาล

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สนามม้านางเลิ้ง องค์การพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่ายได้จัดการแถลงข่าวนัดรวมพล คนทนไม่ไหว ซึ่งได้นัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 28 ต.ค. ที่สนามม้านางเลิ้ง ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. พร้อมเปิดตัวพันธมิตรที่จะเข้าร่วมการจัดชุมนุมดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม พร้อมด้วยคณะทำงาน อาทิ พล.อ.จำลอง บุญกระพือ ที่ปรึกษาองค์การฯ , พล.อ.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ นายสมพจน์ ปิยะอุย รองประธานฯ , ได้ตั้งโต๊ะแถลงร่วมกับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ , ร.ต.แซมดิน เลิศบุตร จากกองทัพธรรม, พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย

พล.อ.บุญเลิศ แถลงข่าว “รวมพลคนทนไม่ไหว นัดชุมนุมใหญ่หยุดวิฤตและหายนะชาติ 28 ต.ค.55” ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลทำงานล้มเหลว โกงกินทุจริต คอร์รัปชั่น สร้างกระบวนการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ครอบงำแทรกแซงระบบราชการ สร้างรัฐตำรวจ ข่มขู่คุกคามบริหารงาน ไร้ฝีมือ โกงโง่ดื้อ จนเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่เกิดจากการทนไม่ได้ สร้างความสั่นสะเทือนต่อรัฐบาล และยังมีการออกมาโกหกว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีกระบวนการหวยบ่อนยาเสพติดสนับสนุน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการร้อนตัวของรับบาล การเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามฯ ไม่มีพรรคการเมืองใดหนุนหลัง และไม่ได้หวังเปลี่ยนขั้วทางการเมืองแบบ “อัปรีย์ไป จัญไรมา” แต่การต่อสู้กับระบอบทักษิณต้องมีเครือข่ายที่มีกำลังมากขึ้น การแสดงพลังของประชาชนจึงจะสามารถหยุดหายนะของรัฐบาลชุดนี้ได้

ด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวว่า ตนได้รับเชิญจาก พล.อ.บุญเลิศ ให้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทย ตนร่างรัฐธรรมนูญมา คนไทยมีหน้าที่สำคัญตามมาตราที่ 70 และ 71 คือ การพิทักษ์รักสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และคนไทยมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศรักษาผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งหน้าที่นี้จะไม่มีวันเกษียณเหมือนอายุราชการ ตนไม่ได้มาส่งเดช แต่ได้ติดตามกิจกรรม อุดมการณ์ และเป้าหมาย ว่าสิ่งนี้ คือ สิ่งที่ใช่เลย สำหรับบ้านเมืองว่าตอนนี้บ้านเมืองสมควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ให้ล่มสลายจากการเมืองเลวๆ ที่มาบริหารประเทศ ทั้งโกง และดื้อด้าน ไม่มีความละอายต่อคุณธรรมและศีลธรรม ซึ่งในวันที่ 28 ต.ค.นี้ สุภาษิตที่ว่า “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” จะใช้ไม่ได้แล้วต้องเปลี่ยนเป็น “เปลี่ยนสนามม้าเป็นสนามกู้ชาติบ้านเมือง” โดยบางคนที่ชอบกล่าวหาว่า ตนเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังนั้นไม่เป็นความจริง ตนอยู่ข้างหน้าเสมอถ้าประชาชนต้องการ อีแอบ คือ คนที่หนีคดีออกนอกประเทศ แล้วสร้างความปั่นป่วนต่างหาก

โดยกิจกรรมหลายกลุ่มที่ทำไป หากถูกต้องและชอบธรรม ทำเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วมแล้วช่วยเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้นตนเห็นด้วยทุกอย่าง ส่วนข่าวที่ว่าเป็นแผนบันได 5 ขั้นล้มรัฐบาลนั้น  ทำไมไม่บอกว่าบันไดขั้นเดียวเท่านั้น คือ ขั้นแรกวันที่ 28 ต.ค. ส่วนขั้นที่ 2 จะตามมาในไม่กี่วัน จะเอาให้จบไม่ยืดเยื้อ ตนคิดว่าถ้าจะมีก็มี 2 ขั้นเท่านั้น มันต้องจบ บ้านเมืองต้องจบลงด้วยดี ด้วยประชาชน  ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลหรือนักการเมืองที่ไม่ดี มีอำนาจบริหารบ้านเมืองชุดปัจจุบันไม่ใช้รัฐบาลของประชาชน แค่อ้างว่ามาจากประชาชน ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งการอ้างดังกล่าวคนไทยรู้ดีว่าการเข้าสู่อำนาจของคนพวกนี้มาด้วยวิธีการที่สกปรก

พล.อ.บุญเลิศ กล่าวเสริมว่า การชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค. ประชาชนที่มาร่วมและรับฟังข้อเท็จจริงจะกลับไปบอกคนที่ไม่ได้มา หลังจากนั้นจะมีการประเมินอีกครั้งว่า มีการบอกข้อมูลต่อกับบุคคลอื่น 1 คนต่อ 100 คน สมมติว่า หากคนมาร่วม 2 หมื่นคน เมื่อฟังแล้วกลับไปบอกให้คนมาอีก 200 คน ก็จะมีครั้งที่ 2 ไม่นานหลังจากวันที่ 28 ต.ค. อาจจะเป็น 1 เดือน หรือ 3 สัปดาห์ โดยบันไดขั้นที่ 2 จะนำไปสู่การขับไล่รัฐบาลโดยประชาชนม้วนเดียวจบ สำหรับรายชื่อนักวิชาการที่จะเข้าร่วมปราศรัย อาทิ นายต่อตระกูล ยมนาค, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์, นายสมเกียรติ หอมลออ, นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ, นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายสุรพงษ์ ชัยนาม, พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์, น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ และ ดร.เสรี วงษ์มณฑา เป็นต้น