posttoday

แฉอีก3นักการเมืองไซฟอนเงิน2พันล้าน

18 ตุลาคม 2555

"มงคลกิตติ์"จี้ สว.ตั้งอนุพิเศษสอบไซฟอน เผย4 ทุจริตโยงข้าว-ครุภัณฑ์-รถหรู แฉ 3 นักการเมืองย่อ "น-ช-ส" พ่วง ขรก.ระดับสูง "ศ."ไซฟอน 2 พันล้านไปปารีส

"มงคลกิตติ์"จี้ สว.ตั้งอนุพิเศษสอบไซฟอน เผย4 ทุจริตโยงข้าว-ครุภัณฑ์-รถหรู แฉ 3 นักการเมืองย่อ "น-ช-ส" พ่วง ขรก.ระดับสูง "ศ."ไซฟอน 2 พันล้านไปปารีส    

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ภตช.) เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการทุจริต เสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภาถึงกรณีการไซฟอนเงินจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทไปเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พร้อมยื่นหนังสือต่อน.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สว.เพชรบุรี ประธานที่ประชุม โดยเรียกร้องให้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตการไซฟอนเงิน วุฒิสภาเป็นการเฉพาะเพื่อตรวจสอบและเอาผิดต่อนักการเมืองอย่างจริงจัง

ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์ เสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบทุจริตไซฟอนเงิน โดยให้อำนาจในการลงพื้นที่จริง โดยส่งสายลับเข้าไปแทรกซึมในบริษัททัวร์ที่รับจ้างไซฟอนเงิน ร้านทองในเยาวราชที่เป็นต้นตอของการโพยก๊วน รวมทั้งส่งสายลับลงพื้นที่เกาะฮ่องกงแทรกซึมในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง ประสานธุรกิจโรงแรมในฮ่องกง ประสานงานภาคประชาชน  คณะกรรมการอิสระเพื่อการปราบปรามการคอร์รัปชั่นในฮ่องกง หรือ Independent Commission Against Corruption (ICAC) นักพนันในมาเก๊าและผู้ที่เชี่ยวชาญการไซฟอนเป็นอย่างดี เพื่อสามารถตรวจการทุจริตครั้งนี้ให้ทันการณ์เท่าทันนักการเมืองที่ทุจริต  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุม นายมงคลกิตติ์ ได้แจงต่อคณะกรรมการธิการว่า ทาง ภตช.ได้รับเรื่องร้องเรียนและข้อมูลจากเครือข่ายภาคประชาชน ภาคธุรกิจในประเทศ และ ICAC ฮ่องกงเกี่ยวกับการทุจริตทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ 1.งบประมาณเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูน้ำท่วม ทุจริตกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งการทุจริตนี้เป็นต้นตอของการไซฟอนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาทที่ฮ่องกง  2.การทุจริตงบประมาณจำนำข้าว 4.05 แสนล้านบาททุจริตกว่า 2.5 แสนล้านบาท 3.การทุจริตคุรุภัณฑ์อาชีวะศึกษา 5.3 พันล้านบาททุจริตกว่า 4 พันล้านบาท และ 4.การทุจริตการนำเข้ารถยนต์หรูหลีกเลี่ยงภาษีย้อนหลัง ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2555 มีการทุจริตไปกว่า 6 หมื่นล้านบาท 

ทั้งนี้ทาง ICACได้เชิญ ภตช.ไปหารือเรื่องการไซฟอนเงิน โดยการร่วมหารือดังกล่าวได้รับการประสานงานผ่านนายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ซึ่ง ICAC ได้ให้ข้อมูลการไซฟ่อนเงินมาบางส่วน แต่พูดไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลเชิงลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา คณะกรรมาธิการได้ซักถามว่าในการเดินทางไปหารือกับ ICAC นั้นมี ป.ป.ช.ร่วมเดินทางไปด้วยหรือไม่ และมีการรายงานต่อ ป.ป.ช. ด้วยหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ ชี้แจงว่า นายอภินันทน์ ไม่ได้ร่วมเดินทาง เนื่องจากเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ได้รับแต่งตั้ง จาก ป.ป.ช. ให้เป็นคณะทำงานตรวจสอบเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามหลังกลับจากการหารือ ICACตนไม่ได้รายงานไปให้ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ทราบเนื่องจากว่าไม่มีการร้องขออย่างเป็นทางการ

จากนั้นนายคำนูณ ได้ขอให้เปิดเผยชื่อย่อนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ในเอกสารหลักฐานที่ยื่นให้ประธานเป็นนักการเมืองจำนวน  3 คน อักษรย่อ “น.”, “ช.”, และ “ส.” และข้าราชการระดับสูง อักษรย่อ “ศ.” ให้พิจารณา แต่ไม่อยากให้นำไปเปิดเผย โดย 3 นักการเมืองและ 1 ข้าราชการระดับสูงมีส่วนร่วมกับการทุจริตโครงการครุภัณฑ์อาชีวะ 5.3 พันล้านบาท ซึ่งมีการทุจริตไปกว่า 4 พันล้านบาทและมีการไซฟอนเงินไปกรุงปารีส 2 พันล้านบาท 

ด้านนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์  ที่ปรึกษาพิเศษ ภตช. ได้เสนอในที่ประชุมว่า ทาง ภตช. เป็นการรวมตัวของภาคพ่อค้า ประชาชน และนักธุรกิจ ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบทุจริตต่างๆ ได้ใช้งบประมาณจากการเรี่ยไร ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ ภตช. ได้ทำงานอย่างเต็มที่ขอให้ ส.ว. เจียดงบประมาณมาให้ ภตช.เพื่อดำเนินการด้วย