posttoday

ปชป.แฉรัฐยังไม่ทำสัญญาขายข้าวต่างประเทศ

14 ตุลาคม 2555

พรรคประชาธิปัตย์ แฉ รัฐบาลเซ็นแค่เอ็มโอยู ยังไม่ทำสัญญาส่งออกข้าวกับต่างประเทศ จี้ เปิดข้อมูลชัดเจน

พรรคประชาธิปัตย์ แฉ รัฐบาลเซ็นแค่เอ็มโอยู ยังไม่ทำสัญญาส่งออกข้าวกับต่างประเทศ จี้ เปิดข้อมูลชัดเจน

ปชป.แฉรัฐยังไม่ทำสัญญาขายข้าวต่างประเทศ ชวนนท์

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอ้างหนังสือสัญญาส่งออกข้าวกับต่างประเทศที่มีการระบุว่า ส่งออกในระบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี แล้ว 7.3 ล้านตัน ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะจากการตรวจสอบพบว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู เท่านั้น และยังมีความผิดปกติที่มีการกำหนดราคาข้าวไว้ล่วงหน้าเป็นปี ทั้งที่ราคาข้าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดทุกสัปดาห์ จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อเท็จจริงให้ได้รับทราบ เพราะเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วและจะซ้ำรอยสมัยที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นรัฐมนตรี ที่มีการอ้างการทำเอ็มโอยู กับประเทศต่างๆ แต่ท้ายสุดไม่ได้มีการซื้อขายจริง

อย่างไรก็ตาม หากมีการซื้อขายข้าวจริง ประเทศไทยเองก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะต้องขายในราคาที่ขาดทุน จึงจะสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ เพราะราคาข้าวไทยตั้งราคาไว้สูงกว่าประเทศอื่นถึง 128 ดอลล่าร์ต่อตัน

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังวิพากษ์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าวที่ขณะนี้อยู่ในภาวะล้นสต๊อก หากรัฐดำเนินโครงการจำนำต่อไปพื้นที่โกดังจะมีไม่พอเก็บข้าว จากที่เห็นได้ชัดว่า มีความพยายามใช้พื้นที่ของทหารและเอกชน รวมถึงสนามบินดอนเมือง เป็นโกดังเก็บข้าว ขณะเดียวกัน โครงการดังกล่าวนี้ยังก่อให้เกิดการขาดทุนถึง 1.76 แสนล้านบาท ซึ่งเกษตรกรจำนวน 1 ล้านครัวเรือน ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับครัวเรือนละ 1.76 แสนบาท แต่เม็ดเงินถึงมือเกษตรกรเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น คิดเป็นครัวเรือนละ 5 หมื่นบาท แต่ชาวนาทั้งหมดในประเทศมี 4 ล้านครัวเรือน ดังนั้นหากรัฐบาลมีความจริงใจควรเอาเงินที่ขาดทุนมาแจกให้เกษตรกรทั้งหมด จะได้ถึงครัวเรือนละ 4.4 หมื่นบาท แต่คิดว่า รัฐบาลคงไม่ดำเนินตามแนวทางนี้ เพราะโครงการจำนำข้าวมีผลประโยชน์มาก และสามารถทุจริตได้เร็ว และทำการตรวจสอบยาก

ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ที่ตอนนี้เหลือกิโลกรัมละ 3 บาท จากที่รัฐบาลชุดที่แล้วราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 – 8 บาท ซึ่งปัญหาราคาตกต่ำเกิดจากการที่รัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากประเทศอินโดนีเซีย 40,000 ตัน ที่รัฐบาลอ้างว่า จะนำเข้าเพื่อยกระดับราคา แต่กลายเป็นว่า ราคาผลกลับต่ำลง และราคาน้ำมันปาล์มต่อขวด กลับราคาสูงขึ้น จึงเป็นการบริหารเอื้อนายทุนผู้ประกอบการ เป็นรัฐบาลคนจนแท้ที่ไม่ได้มีนโยบายทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น