posttoday

ปชป.ชี้คนอยู่เบื้องหลังชายชุดดำคือคนเสียอำนาจ

13 ตุลาคม 2555

ปชป. ปราศรัยซัด คนที่อยู่เบื้องหลังชายชุดดำ คือคนที่เสียอำนาจและอยากได้คืน หวังใช้ความรุนแรงป้ายสี อภิสิทธิ์

ปชป.ปราศรัยซัด คนที่อยู่เบื้องหลังชายชุดดำ คือคนที่เสียอำนาจและอยากได้คืน หวังใช้ความรุนแรงป้ายสี อภิสิทธิ์ 

เวลา 16.00 น.พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยพิเศษ “ผ่าความจริง ใครบงการ มัจจุราชชุดดำ ฆ่าประเทศไทย” ที่อาคารลุมพินีสถาน สวนลุมพินี ภายในงานมีการจำหน่ายหนังสือ “ความจริงไม่มีสี” ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เขียน จำนวน 1 พันเล่ม โดยจำหน่ายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้บรรยากาศภายในงานมีการจัดนิทรรศการโดยอ้างอิงเนื้อหาในรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) อาทิ ตั้งซุ้มเปิดเผยข้อมูล “34 จุด ปฏิบัติการมัจจุราชชุดดำ” “63 จุดปฏิบัติการป่วนเมือง” เป็นต้น

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่เข้าฟังจำนวนมากจนล้นออกจากอาคารลุมพินีสถานว่า วันนี้ทุกคนจะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับชายชุดดำ ความรุนแรงในการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อปี 53 รายงานความจริงของคอป. ระบุในหน้าที่ 77 อย่างชัดเจนว่า ในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อวันที่  10 เม.ย 53 เวลาประมาณ 10.00 น. ระหว่างการปะทะมีการปรากฏตัวของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเรียกว่าคนชุดดำ ใช้อาวุธสงครามโจมตีเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งความหมายของชายชุดดำคือ คนหรือกกลุ่มคนที่มีอาวุธสงครามและใช้อาวุธสงครามต่อต้านรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ทหารก่อนและหลังเหตุการณ์รุนแรง เมื่อเดือนเม.ย. 53

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่ามีชายชุดดำจริง แต่วันนี้มีความพยายามที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เป็นคนสั่งการสลายการชุมนุม ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่เป็นการดำเนินการภายใต้พรบ.ฉุกเฉินฯ ที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปดูแลผู้ชุมนุมจากเบาไปหาหนัก ไม่มีใครอยากให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่เมื่อเหตุการณ์บานปลายขึ้น จึงเกิดชายชุดดำขึ้นมาเพื่อต้องการให้เกิดความรุนแรง และเกิดความสูญเสียเพื่อป้ายความผิดให้แก่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์

ปชป.ชี้คนอยู่เบื้องหลังชายชุดดำคือคนเสียอำนาจ

นายกรณ์ จติกวณิช รองหัวหน้า ปชป. กล่าวว่า เราต้องการเปิดโปงความจริงว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังชายชุดดำ อยากให้พี่น้องทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.ปี 53 ว่าใครเป็นผู้ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้น อยากย้ำว่าผู้ที่ต้องการอำนาจมักจะสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้ชิงอำนาจกลับคืนมา

ทั้งนี้อยากให้ตระหนักว่านายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้นำรัฐบาล ซึ่งกุมอำนาจอยู่ในเวลานั้นจะมีเหตุผลอะไรที่จะสร้างเงื่อนไขให้ผู้ที่ต้องการอำนาจแย่งชิงอำนาจไป หลังจากนั้นนายกรณ์ตะโกนถามว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังชายชุดดำคือใคร โดยให้คนที่มาฟังปราศรัยตะโกนตอบ

“หากเราอยู่เบื้องหลังการยิงประชาชนจริง ยิงแกนนำแดงบนเวทีแทนไม่ดีกว่าหรือ ยิงจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ดีกว่าหรือ ยิงณัฐวุฒิ ใสยเกื้อไม่ดีกว่าหรือ ราคายางพาราจะได้สูงขึ้น” นายกรณ์กล่าว

ศิริโชค ปูดแดงจัดฉากคดีกมนเกด

นายศิริโชค โสภา สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวที โดยได้ฉายภาพสไลด์พร้อมภาพกราฟฟิกระบุว่าศพ น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือน พ.ค.ปี 53 ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ถูกยิงจากเจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะวิถีกระสุนที่ยิงเข้าร่าง น.ส.กมนเกดนั้นต้องเกิดจากมุมยิงที่ต่ำกว่า 10 องศา แต่จุดที่คาดว่าเจ้าหน้าที่ประจำการนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ต้องยิงในวิถีกระสุน 30 องศา ดังนั้นต้องยิงในวิถีไซร้โค้งถึงจะสามารถยิง น.ส.กมนเกดได้ ซึ่งไม่มีความเป็นไปไม่ได้

นายศิริโชค ยังกล่าวว่า กรณีที่แกนนำเสื้อแดงอ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐยิงน.ส.กมนเกด ทั้งๆ ที่สวมเสื้อกาชาดนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่เกิดจากการจัดฉากมีการนำเสื้อกาชาดไปสวมภายหลังจากที่ น.ส.กมนเกดเสียชีวิตแล้ว ดังนั้นการอภิปรายในสภาที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทยเคยนำเสื้อกาชาดเปื้อนเลือดมาแสดงกลางที่ประชุมแล้วอภิปรายโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นการจัดฉากเพราะไม่มีรอยกระสุนอยู่บนเสื้อกาชาด ฉะนั้นเรื่องนี้มองได้ว่าเป็นกระบวนการหากินกับศพของเหล่าแกนนำคนเสื้อแดง    

 สุเทพร่ำไห้ยันไม่ทิ้งทหารติดคดีแดง

เวลา 20.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ว่า ขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีมักออกมาพูดบ่อยครั้งว่าจะจับตนดำเนินคดีจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 โดยมีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.อ.ประเวศ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอออกมารับลูก แต่อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในเหตุการณ์ปี 53 จากการดำเนินการของบรรดาผู้ก่อการร้าย ดังนั้นขอยืนยันว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือจ้างทนายความที่เก่งที่สุดในประเทศเพื่อช่วยทหารสู้คดีความทุกนาย และหากมีการดำเนินคดีเกิดขึ้นขอยืนยันว่าตนเป็นผู้สั่งการเองทั้งสิ้น ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงโดยมีกฎหมายรองรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุเทพได้อ่านรายชื่อของเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการสลายการชุมนุม โดยนายสุเทพได้ระบุว่าก่อน พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม  อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เสียชีวิตได้พาภรรยามาหาตนและบอกว่าจะดูแลประเทศชาติ แต่วันนี้เหลือเพียงภรรยา พล.อ.ร่มเกล้าเพียงคนเดียว พอถึงจุดนี้เสียงของนายสุเทพถึงกับสะอื้นและน้ำตาไหลออกมาเห็นได้ชัด หลังจากนั้นนายสุเทพได้กล่าวขานชื่อและชื่นชมทหารร่วม 10 คนพร้อมเสียงสะอื้นตลอดเวลา         

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ญาติเจ้าหน้าที่ไปขอรับเงินเยียวยาได้คนละ4 แสนบาท ขณะที่ลูกน้องนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงได้ 7 ล้านบาท ตนไม่ได้เอาเรื่องนี้มาพูดเพื่อให้ไม่พอใจ แต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนเสียสละชีวิตให้บ้านเมืองปลอดภัย ให้ประชาธิปไตยอยู่ได้ วันนี้คนของรัฐออกมาพูดเรื่องคนตาย แต่ไม่เคยที่จะพูดถึงการตายของเจ้าหน้าที่ 10 คนนี้เลย มีแต่คนพยายามออกมาพูดให้เจ้าหน้าที่เป็นคนร้าย ทั้งที่เขาทำหน้าที่อย่างมีเกียรติยศ ในเหตุการณ์ทั้งหมดกว่าจะแก้ไขให้สู่ความสงบได้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 675 คน วันนี้ไม่มีใครพูดถึง มีหลายสิบคนสาหัส บางคนวันนี้ยังช่วยตัวเองไม่ได้ บางคนไม่สามารถกลับไปรับราชการได้แล้ว ตนเอาเรื่องนี้มาพูด เพื่อบอกว่าที่ ร.ต.อ.เฉลิม นายธาริต เเละ พ.ต.อ.ประเวศ กำลังพูดจะทำลายเกียรติเจ้าหน้าที่ ขอให้รู้ว่าเป็นบาปอย่างมหาศาล ทุกคำพูดที่ใส่ร้ายทำร้ายหัวใจญาติทหารเหล่านั้นอย่างยิ่ง ขอความเป็นธรรมให้คนที่เสียสละเพื่อส่วนร่วมของคนไทยด้วย นอกจากนี้ ในความพยายามที่จะต้องข้อหากับผมกับนายอภิสิทธิ์ ในการออกคำสั่ง แต่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนไม่ใครซัดทอดเลย ผมซาบซึ้งจริงที่ไม่ซัดทอด แต่ขอบอกว่าอย่าห่วง เพราะผมและนายอภิสิทธิ์พร้อมพิสูจน์ความจริง และไม่หนีไปต่างประเทศเด็ดขาด

ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนถูกกล่าวหาว่าสั่งการให้ทหารสลายการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิต แต่ยืนยันว่าทำโดยมีกฎหมายรองรับ ขอถามว่าแกนนำคนเสื้อแดงทั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์  นายจตุพร นายณัฐวุฒิ รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ใช้กฎหมายอะไรรองรับในการส่งคนไปตาย 

 ขณะนี้รัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทยออกไปตั้งเวทีด้วยงบประมาณเกือบ 1 ร้อยล้านบาทให้สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และแนวทางการปรองดอง โดยอ้างว่าประเทศบอบช้ำมากพอแล้ว ให้ประชาชนหันมาปรองดองกัน แต่อยากบอกพี่น้องว่าเราอยากเห็นคนไทยปรองดองแต่ไม่อยากเห็นนักโทษลอยนวลและจะไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญตามอำเภอใจและออกฎหมายลบล้างความผิด ดังนั้น หากมีการตั้งเวทีที่จุดไหน ของให้พี่น้องไปคัดค้านได้เลย เพราะรัฐธรรมนูญที่มีอยู่เราพอใจแล้ว และเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตไปจะได้ไม่เสียเปล่า