posttoday

บิ๊กอ๊อด มั่นใจ พ.ย. ค้าขายภาคใต้ปกติ

12 ตุลาคม 2555

'ยุทธศักดิ์' ศักดิ์"เล็งนัด ผบ.ทบ.ถกดับไฟใต้ ระบุยะลา-นราธิวาสเปิดร้านขายของวันศุกร์แล้ว30% -ปัตตานียังเงียบ เชื่อ 1 เดือนสถานการณ์เป็นปกติ

'ยุทธศักดิ์' ศักดิ์"เล็งนัด ผบ.ทบ.ถกดับไฟใต้ ระบุยะลา-นราธิวาสเปิดร้านขายของวันศุกร์แล้ว30% -ปัตตานียังเงียบ เชื่อ 1 เดือนสถานการณ์เป็นปกติ

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากรายงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการใช้ใบปลิวข่มขู่ร้านค้าไม่ให้เปิดบริการในทุกวันศุกร์พบว่า ในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเปิดขายประมาณร้อยละ 30 ในจังหวัดยะลาและนราธิวาส ส่วนจังหวัดปัตตานียังไม่กล้าเปิดขายเพราะส่วนใหญ่ยังรอดูสถานการณ์ ทั้งนี้ คาดภายใน 1 เดือน สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 "คาดว่าเดือนพฤศจิกายนจะดีกว่าเดิม และเข้าสู่ภาวะปกติให้ได้ ต้องทำให้ได้" พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้พบว่า มีการเปิดร้านทั้งร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าของชาวพุทธเปิดให้บริการแล้ว ส่วนชาวไทยมุสลิมหลายแห่งยังรอดูท่าทีว่า จะเกิดความปลอดภัยหรือไม่ แต่คาดว่า ก็จะประเมินสถานการณ์ร้านค้าชาวมุสลิมอีกครั้ง หลังกลับจากการทำละหมาดในช่วงบ่ายวันนี้

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุว่า ได้รับรายงานทางด้านการข่าวพบว่า ใบปลิว และการสั่งการต่างๆ มาจากบางรัฐจากนอกประเทศ ไม่ใช่การสั่งการในประเทศไทย โดยมีความพยายามใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐว่า เป็นต้นเหตุของใบปลิวดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้รัฐบาลจะพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านเกิดความมั่นใจในการออกมาใช้ชีวิตประจำวัน และเชื่อว่า ชาวมุสลิมมีความเข้าใจดี เพราะได้มีการจัดพิมพ์เอกสารของจุฬาราชมนตรี เพื่อทำความเข้าใจในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังกล่าวว่า กลุ่มก่อความไม่สงบมีการพัฒนาการวิธีการก่อเหตุ ด้วยความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อไล่ชาวไทยพุทธออกจากพื้นที่ และพยายามควบคุมประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิมให้เกิดความหวาดกลัว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้โดยจะดูแลชาวพุทธให้สามารถทำมาหากินในพื้นที่ให้ได้ และให้ชาวไทยมุสลิมสามารถออกมาทำงานได้ด้วยความรู้สึกปลอดภัย โดยจะมีเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลพื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5,000 นาย อาสาสมัครรักษาดินแดน 2,700 คน และเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด 40,000 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื่นที่ ก่อนที่จะให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ทำงานด้านการพัฒนาต่อไป

นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือกับ ผู้บัญชาการทหารบกในการแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ โดยฝ่ายรัฐจะเปลี่ยนยุทธวิธีในเชิงรุกให้มากขึ้น ดีกว่าการตั้งรับเพียงอย่างเดียว รวมถึงจะได้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาช่วยเหลือ เช่น ต้นเดือน พ.ย.จะส่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ไปหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ ว่า นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในเดือน พ.ย.นี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า หากจะเดินทางมาในไทย ก็คาดว่า จะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งต้องรอประสานอย่างเป็นทางการแต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในแผนที่จะมีการเดินทางมาเยือนในกลุ่มประเทศอาเซียน

"ยังไม่มีการประสานเป็นทางการ...การประสานงานต้องรอก่อน ถ้าจะมาในอาเซียนมีแผนมาเยือนประเทศไทย ผมว่าอาจไม่ได้มาเดือนพฤศจิดายน อาจต้องหลังผลเลือกตั้ง"พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว