posttoday

คำนูญจี้โต้งลาออกโกหกตัวเลขส่งออก

27 สิงหาคม 2555

สว.จี้กิตติรัตน์ลาออกหลังโกหกสีขาวตัวเลขส่งออก หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมชงส่งเรื่องให้ป.ป.ช.พิจารณาถอดถอน

สว.จี้กิตติรัตน์ลาออกหลังโกหกสีขาวตัวเลขส่งออก หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมชงส่งเรื่องให้ป.ป.ช.พิจารณาถอดถอน

คำนูญจี้โต้งลาออกโกหกตัวเลขส่งออก

การประชุมวุฒิสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ออกมารับผิดชอบภายหลังจากที่นายกิตติรัตน์ ออกมายอมรับว่าได้โกหกเกี่ยวกับตัวเลขซึ่งเป็นเป้าหมายการส่งออกของประเทศ ที่จะขยายตัวถึง 15%

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในภาคการลงทุน และมองว่าการโกหกสีขาวของนายกิตติรัตน์ เป็นการทำผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ข้อ 6 (2) และ (7) ข้อ 10 และ ข้อ 25 ดังนั้น เห็นว่านายกิตติรัตน์ต้องลาออก หากไม่ลาออกต้องออกมาขอโทษประชาชน นักธุรกิจชาวไทย และต่างประเทศ ว่าที่ผ่านมาได้ทำผิดพลาด

ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องออกมาตอบข้อซักถามดังกล่าว เนื่องจากตามประมวลจริยธรรม นายกฯมีหน้าที่กำกับดูแลตามข้อ 30 ทั้งนี้ ตนขอฝากไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (2) เกี่ยวกับการดำเนินตามจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ตามมาตรา 279 วรรคสาม เพราะการไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม ถือว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัย ให้ผู้ตรวจการฯ รายงานต่อรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี

“หากเป็นการกระทำผิดร้ายแรง ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ โดยให้ถือเป็นเหตุที่จะถูกถอดถอนตามมาตรา 270 ทั้งนี้ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ของวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า ตนจะถามว่าตัวเลขที่พูดมานั้น อะไรโกหก อะไรที่เป็นไวท์ ไลน์ หรือ เป็นบิ๊กไลน์” นายคำนูณกล่าว

ขณะที่นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สว.สรรหา กล่าวว่า การที่นายกิตติรัตน์ โกหกเรื่องตัวเลขการส่งออก ไม่ว่าจะมีเจตนาดีแค่ไหน แต่ด้วยฐานะและตำแหน่งของนายกิตติรัตน์ที่ถือเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่สามารถที่จะนำมาพูดเล่น หรือพูดโกหกได้ ไม่ว่าจะโกหกสีขาวหรือสีดำ ถือว่าไม่มีสิทธิ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน เพราะคำพูดที่นายกิตติรัตน์ระบุจะถือเป็นข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนไปดำเนินการตัดสินใจในการลงทุนภายในประเทศ

“หากนายกิตติรัตน์ยังอยู่ในตำแหน่งนี้ ต้องระวังคำพูด เพราะจะถูกไปตีความได้ ไม่ว่าอย่างใดทำไม่ได้ทั้งสิ้น” นพ.เจตน์กล่าว