ปูปรับยุทธศาสตร์แก้ปัญหาใต้

นายกฯสั่งปรับยุทธศาสตร์แก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้ให้เป็นเอกภาพ พร้อมฟังข้อมูลทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหา

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความเข้าใจ เพราะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องทำความเข้าใจในเชิงลึก จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดูว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรในขั้นตอนการปฏิบัติ

ทั้งนี้ กรอบยุทธศาสตร์ใหญ่ยังคงอยู่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การลงไปในภาคปฏิบัตินั้น ต้องมีความเป็นเอกภาพอย่างชัดเจน และดึงศักยภาพของทุกกระทรวงเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนในพื้นที่พร้อมกัน และที่สำคัญเมื่อทุกกระทรวงมาช่วยกันก็จะได้ช่วยสร้างขวัญ และกำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่และในส่วนของพื้นที่

อย่างไรก็ดี เมื่อถามว่า ความสงบยังไม่เกิด และจะให้แต่ละกระทรวงจะลงไปทำงานนั้นลำบาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นการทำงานผ่านพื้นที่ อาทิ บางครั้งการบูรณาการทางด้านความปลอดภัยก็ต้องประสานกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ในส่วนของกทม. จะดำเนินการโดยการวางแผนติดตามประสานงานไปยังในพื้นที่ ซึ่งพื้นที่ก็จะดำเนินการภายใต้กรอบคงเดิมอยู่ที่มีการทำงานร่วมกับระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อยู่แล้ว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มีการวิเคราะห์ถึงปัญหาว่าทำไมถึงเกิดในพื้นที่เซฟตี้โซน แต่ต้องขอความร่วมมือซึ่งในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เนื่องจากต้องใช้ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน  ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน ซึ่งถ้ามากเกินไปจะทำให้คนในพื้นที่เกิดความกังวล ยืนยันว่ารัฐบาลมีความกังวล และห่วงใยประชาชน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ลงไปทำงานติดตามใกล้ชิด

สำหรับด้านการข่าวถ้าดำเนินการได้เร็วก็เป็นสิ่งที่ดี แต่วันนี้มีหลายจุดที่จะต้องเริ่มป้องกัน ซึ่งต้องขอความเห็นใจเนื่องจากต้องในระยะเวลาในการดำเนินการ ทำความเข้าใจในเชิงลึก ขณะเดียวกัน ยินดีที่จะเปิดรับความคิดเห็นจะทุกฝ่ายที่จะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาภาคใต้ ทั้งนี้ไม่ขอพูดถึงเป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรงในภาคใต้ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่

“ไม่ใช่การทำงานวิ่งตามโจร เป็นการทำงานในเชิงรุก ยุทธศาสตร์ต่างๆ วางกรอบใหญ๋ แต่การขับเคลื่อนต่างหากที่ต้องเร็วขึ้น และเป็นเอกภาพ ซึ่งต้องหารือในรายละเอียด และการทำงานต่างๆ มีหลายปัจจัยที่ต้องให้เวลา”นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดสภาเพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทางสภา ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว บางครั้งก็อยู๋ในเรื่องที่เปิดเผยได้ บางครั้งก็เปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของรูปคดี เรื่องของการทำงานในเชิงลึก ซึ่งรัฐบาลพร้อมและยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายค้านด้วย เพราะฝ่ายค้านรู้พื้นที่ต่างๆ ก็ยินดีที่จะทำงานร่วมกัน เพราะไม่ใช่ปัญหาการเมือง รัฐบาลยินดีและพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริง จากทุกคน และทุกหน่วยงาน

อย่างไรก็ตาม การเยียวยาผู้เสียชีวิตในพื้นที่ ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตามขั้นตอน และจะติดตามดูว่าจะต้องมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และให้กำลังใจเจ้าของโรงแรมซีเอส ปัตตานีที่เกิดเหตุระเบิดวานนี้ไปแล้ว