ปูยันรัฐใส่ใจแก้ปัญหาไฟใต้

นายกฯ ต้อนรับเยาวชนภาคใต้ ยันรัฐใส่ใจแก้ปัญหาไฟใต้ ตอบคำถามเด็กบอกไม่ใช่คนเก่ง แต่เชื่อทุกคนมีความสามารถ ขอให้ดึงมาใช้ให้ถูกวิธี

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้คณะนักเรียนจาก 3 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 30 คน เข้าเยี่ยมคารวะที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ได้รับการคัดเลือกมาจากโครงการมิราเคิลออฟไลฟ์ ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านสระมาลา จังหวัดปัตตานี โรงเรียนบ้านจะแลเกาะ จังหวัดนราธิวาส และโรงเรียนบ้านบุรินทร์ จังหวัดยะลา เดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ และรับทุนการศึกษาคนละ 10,000 บาท พร้อมทั้งได้มอบของที่ระลึกงานฝีมือให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสำหรับของขวัญที่มอบให้ ถือว่ามีค่ามากในส่วนของน้ำใจและกำลังใจ พร้อมทั้งให้โอวาทเยาวชนว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับเยาวชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งต้องมีการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ซึ่งเน้นให้การสนับสนุนเยาวชนให้เรียนมากขึ้น จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ หวังว่าเยาวชนทุกคนที่ได้มาเยี่ยมชมในครั้งนี้จะนำประสบการณ์และการเรียนรู้ต่างๆ ไปเล่าแลกเปลี่ยนกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รับทราบถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้รับฟังและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มีการสั่งการในการแก้ไข โดยให้นโยบายไปว่าทำอย่างไรให้คนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย มีการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขดีขึ้น มีการพัฒนาการศึกษา มีอาชีพที่ดีขึ้น และได้แต่งตั้งคณะกรรมการในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา โดยรวมพลังจากทุกกระทรวง ยืนยันว่ารัฐบาลจะร่วมมือกับทุกฝ่ายในการพัฒนาชีวิต ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน และร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือจากคนในชุมชนและเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ช่วยกันแจ้งข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ในการติดตามแก้ไขปัญหาต่างๆ

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการให้โอวาทและต้อนรับคณะเด็กนักเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนเยาวชนได้สอบถามนายกรัฐมนตรี 2 คำถาม ซึ่ง มีนักเรียนหญิงจาก จ.ปัตตานี สอบถามว่า ทำอย่างไรถึงจะทำงานได้เก่งเหมือนนายกรัฐมนตรี และมีวิธีการดูแลสุขภาพอย่างไรทั้งที่ต้องทำงานหนักตลอดทุกวัน ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความจริงตนไม่ได้เป็นคนเก่ง แต่เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถของตัวเอง และขอให้ทุกคนคิดว่าเรามีดีในแต่ละคน และตนอยากให้ดึงเอาความเก่งของทุกคนออกมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญอยู่ที่ ใจ ความมุมานะ บากบั่นและเจตนารมณ์ที่จะร่วมกันในการพัฒนาประเทศต ตนเชื่อว่าเยาวชนทุกคนก็มีความเก่ง ดังนั้นก็อย่าลืมดึงศักยภาพความเก่งออกมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์

ส่วนวิธีการดูแลรักษาสุขภาพนั้น แบ่งออกเป็นสุขภาพกายและสุขภาพใจ ซึ่งสุขภาพกายนั้นดูแลไม่ยากก็ใช้วิธีการดูแลพักผ่อนร่างกายเพราะคนเราไมใช่เครื่องจักรเครื่องยนต์ ก็ต้องพักผ่อนบ้าง ส่วนสุขภาพทางกายนั้นจะดีไม่ได้ ถ้าใจไม่มีความสุข สิ่งที่ทำอยู่ในวันนี้เรียกว่าอีคิว ซึ่งต้องคิดในทางสร้างสรรค์ ในทางบวก มองปัญหาให้เป็นโอกาส ให้มีทางออก ตนเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก ดังนั้นต้องค่อยๆคิดค่อยๆทำในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ถ้าเราคิดเช่นนี้ได้ก็จะมีความสุข เมื่อใจเราเป็นสุขก็สามารถทำงานได้ความสุข