posttoday

มาร์คโวยเสื้อแดงตามทำร้าย

21 กรกฎาคม 2555

อภิสิทธิ์ จวก จตุพร พูดเรื่องเก่าปมหนีทหาร งงไม่เอาบัญชีผ่อนผันประกอบ โวย นายกฯ-เพื่อไทย เตือนเสื้อแดงเชียงใหม่ หลังตามทำร้าย รับไม่ได้แก้รธน.ช่วยทักษิณ

อภิสิทธิ์ จวก จตุพร พูดเรื่องเก่าปมหนีทหาร งงไม่เอาบัญชีผ่อนผันประกอบ โวย นายกฯ-เพื่อไทย เตือนเสื้อแดงเชียงใหม่ หลังตามทำร้าย รับไม่ได้แก้รธน.ช่วยทักษิณ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าหลักฐานรายงานผลการสอบสวนการเข้ารับราชการโรงเรียนนายร้อย จปร.ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ออกมาแสดงนั้น ว่า เป็นเอกสารตั้งแต่ปี 2542 เมื่อบรรจุพยานสืบในศาล เมื่อทนายซักว่ารายงานดังกล่าว ถ้าเอาเอกสารประกอบเรื่องบัญชีการผ่อนผันเข้าไป ผลสรุปจะเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ ซึ่งพยานเองก็ยอมรับว่าจะมีผลกระทบเปลี่ยนแปลง เพราะว่ารายงานที่ทำปี 2542 และที่กระทรวงกลาโหมทำล่าสุดก็ไม่ได้นำประเด็นบัญชีผ่อนผันทหารเข้าไปพิจารณาด้วย ซึ่งทำให้ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่นายกมล บันไดเพชร สส.พรรคเพื่อไทยยอมรับกับศาลว่าจะมีผลกระทบเปลี่ยนแปลงไป โดยทั้ง 2 คนนี้พยายามจะพูดเรื่องเก่าอยู่เสมอ

ส่วนกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงที่จังหวัดเชียงใหม่ ปิดล้อมถนนและขว้างปาหินใส่ขบวนรถของตนเองนั้นเห็นว่า นี่คือของจริงว่าทำไมที่รัฐบาลพูดเรื่องการปรองดอง ไม่ว่าจะเป็นในด้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีเอง ไม่เคยออกมาพูดหรือห้ามปรามคนเสื้อแดงที่บอกว่าเป็นเนื้อเดียวกัน หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งเหตการณ์เมืีอวานที่ผ่านมาไม่ใช่กรณีของการแสดงออกเพียงอย่างเดียว แต่มีความจงใจที่จะทำร้าย เพราะว่ามีความพยายามที่จำนำรถมาปิดถนน เพียงแต่ว่ารถของตนเองหลุดออกมาได้ก่อนที่จะปิดสำเร็จ และก่อนที่จะมีการนำก้อนหินมาปาใส่ ขณะเดียวกันรถในขบวนของคณะทำงาน ก็ถูกทุบและไล่ชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้ผิดต่อกฎหมายชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการ และต้องถามไปยังพรรคเพื่อไทย รัฐบาล ว่านี่คือนโยบายปรองดองและการรักษาความสงบเรียบร้อยหรืออย่างไร ส่วนตนจะไม่มีการยื่นเรื่องดังกล่าวให้ทาง กกต.พิจารณา แต่อยากให้ กกต.ในฐานะที่ดูแลกติกาการแข่งขันทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองจะปล่อยให้สภาพเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆใช่หรือไม่ เพราะพรรคการเมืองบางพรรคสามารถมีกลุ่มมวลชนมาขัดขวางการปฎิบัติงานและหน้าที่ของพรรคการเมืองอื่นได้


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศโดยอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่ให้พรรคเพื่อไทย แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับ ว่าขณะนี้ไม่ใช่เรื่องห้ามหรือไม่ห้ามแก้รัฐธรรมนูญ แต่คำถามที่ทุกคนอยากได้คำตอบคือจุดมุ่งหมายของการแก้รัฐธรรมนูญเพื่ออะไร ถ้าเป็นการแก้ไขปรับปรุงทั้งระบบเพื่อให้ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ก็เป็นเรื่องที่สามารถช่วยกันผลักดันได้ เช่น อยากทบทวนที่มาของวุฒิสภา หรือประเด็นอื่นๆ แต่หากจุดมุ่งหมายของแก้รัฐธรรมนูญจะกี่รายมาตราก็ตาม เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นคดี บั่นทอนกลไกการตรวจสอบในสังคม ซึ่งทำให้ฝ่ายบริหาร หรือรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นชุดใดก็ตามที่ไม่ใช่เฉพาะชุดนี้สามารถทำผิดกฎหมาย ทุจริต คอรัปชั่น ไม่มีการตรวจสอบรวมถึงไม่สารถเอาผิดได้ ก็ไม่เห็นด้วย แต่สาระทั้งหมดที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้เสนอมาคือการแก้ไขมาตรา 309 เพื่อช่วยคดี พ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทิศทางใดนั้น นายอภิสิทธิ์ เห็นว่า ขณะนี้เป็นประเด็นทางการเมือง ที่ทางผู้เสนอรวมถึงผู้มีส่วนร่วมจะต้องตัดสินใจ ส่วนตนยืนยันว่าควรทำให้ประเทศสงบ และเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและรัฐบาลที่สุด เพื่อจะได้นำเวลาที่เหลือมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภัยพิบัต และเหตุการณ์ความรุนแรงทางภาคใต้ ที่รัฐบาลต้องใส่ใจมากกว่าการจะทำให้ทุกอย่างมาจมปลักกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายล้างผิดเพื่อตอบสนองความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก เพียงอย่างเดียว