ปูจ้อสื่อฝรั่งเศสปลื้มนโยบายค่าแรง

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อฝรั่งเศส ปลื้มนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปัดบริหารงานภายใต้เงา ทักษิณ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าว ฟรองซ์ 24 สื่อทีวีของฝรั่งเศส ก่อนเดินทางเยือน ฝรั่งเศส โดยเนื้อหาระบุว่าระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปี กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ตนมีความภาคภูมิใจในนโยบายขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมปฏิเสธหนักแน่นว่า ไม่ได้บริหารประเทศภายใต้เงาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย โดยยืนยันว่าทุกอย่างถูกตัดสินใจด้วยทีมงานภายใต้การบริหารของตน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนสนับสนุนนโยบายสร้างความปรองดอง เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายทหาร และกล่าวถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่การใช้กฎหมาย ซึ่งควรได้รับการดูแลว่า จะไม่ถูกนำไปใช้ในทางการเมือง

ทั้งนี้ สาเหตุที่ชาวไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ พี่ชาย  เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความสำเร็จทางการงาน ทั้งด้านธุรกิจ ก่อนที่จะเข้ามาเล่นการเมือง และชาวไทยส่วนใหญ่ ก็ชื่นชอบนโยบายหลายอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณสมัยที่ยังบริหารประเทศ ก่อนตอบว่าไม่ทราบจริง ๆ ว่าพี่ชายจะได้กลับประเทศไทยเมื่อใด

สำหรับภารกิจวันนี้ ( 20 ก.ค. )น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับนายฟรองซัวส์ ออลองค์ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศสในวันนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป แนวโน้มและนโยบายของฝรั่งเศสต่อการแก้ปัญหา รวมถึงตอกย้ำความร่วมมือทวิภาคี เช่น การหาแนวทางเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน การขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ และที่สำคัญการสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของฝรั่งเศสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น การเข้าร่วมในโครงการพัฒนาเครือข่ายในภูมิภาค ณ ทำเนียบประธานาธิบดี

และเวลา 12.30 น. จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ณ ห้องทำงานของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสทำเนียบนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือทางการศึกษาและการวิจัย ณ ห้อง Salon ทำเนียบนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส และร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ

15.00 น. นักธุรกิจชั้นนำของฝรั่งเศสจะเข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับนายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมที่พัก จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปศึกษาดูงานเรื่องการบริหารจัดการเมือง และการพัฒนาระดับความเป็นอยู่ของชีวิตคนเมือง ณ Pavillon d'Arsenal กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นประเทศที่สำคัญในภูมิภาคยุโรปที่มีมูลค่าการค้าการลงทุนสูง และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือกับไทยในภูมิภาคยุโรป จึงนับเป็นโอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่ภาคเอกชนของไทย จะได้ใช้โอกาสดังกล่าวแสวงหาลู่ทางการขยายความร่วมมือ การค้าการลงทุน รวมทั้งการเจรจาแก้ปัญหาและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ในการนี้จึงมีภาคเอกชนไทยจาก 5 สาขาที่มีการค้าและการลงทุนอยู่ในภูมิภาคยุโรป และมีแผนการขยายการลงทุน ได้แก่ สาขาเกษตรอาหาร อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สาขาพลังงาน แฟชั่น และการแพทย์ ร่วมคณะเดินทางเยือนด้วย รวมทั้ง เพื่อผลักดันกลไกความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชนอีกด้วย