posttoday

สภาทนายเบรกนิติราษฎร์วิจารณ์ศาลรธน.

17 กรกฎาคม 2555

สภาทนายความแถลงการณ์ให้กลุ่มนิติราษฎร์ยุติการแสดงความเห็นต่อคำวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

สภาทนายความแถลงการณ์ให้กลุ่มนิติราษฎร์ยุติการแสดงความเห็นต่อคำวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

สภาทนายเบรกนิติราษฎร์วิจารณ์ศาลรธน. กลุ่มนิติราษฎร์

 

นายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงาน ออกแถลงการณ์สภาทนายความ ฉบับที่ 3/2555 เรียกร้องให้นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ยุติการแสดงความคิดเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนกว่าจะได้ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นที่ยุติเสียก่อน

สภาทนายความ ยังคงยืนยันว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 45 แต่ในฐานะนักกฎหมาย การที่จะแสดงความคิดเห็นทางวิชาการควรได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นที่ยุติเสียก่อน แล้วนำตัวบทกฎหมายมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุตินั้น เพราะหากข้อเท็จจริงนั้นไม่ถูกต้อง ครบถ้วนและไม่เป็นที่ยุติ ตัวบทกฎหมายที่นำมาปรับใช้นั้นย่อมคลาดเคลื่อนไปด้วย การนำเสนอความคิดเห็นของนักวิชาการด้านกฎหมายต้องเป็นความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ไม่มุ่งร้ายทำลายบุคคลใดด้วยอารมณ์ หรือมีเจตนาแอบแฝงอื่น

"การแสดงความคิดเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยยังไม่ได้ตรวจสอบคำวินิจฉัยกลาง และคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเผยแพร่คำวินิจฉัยดังกล่าว ย่อมอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้" นายเจษฎา กล่าว

การที่กลุ่มนิติราษฎร์ เสนอให้ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ สภาทนายความเห็นว่า เป็นการสร้างปัญหาการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐขึ้นอีก เพราะสัดส่วนคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญที่มีการเสนอ 8 คน (ตัวแทน ส.ส. 3 คน - ครม. 3 คน - ส.ว.2 คน) จะมีเสียงข้างมากเป็นของพรรคการเมืองเสียงข้างมากถึง 6 คนที่อาจจะทำให้คณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ ขาดความเที่ยงธรรมได้และขัดกับบทความเรื่อง "โครงสร้างและกลไกในรัฐธรรมนูญกับอำนาจของนายกฯ ทักษิณ" ที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ได้เขียนในหนังสือรู้ทันทักษิณ 2 เมื่อปี 2547 ขณะที่ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชนหลายคดี สภาทนายความ จึงเรียกร้องให้กลุ่มนักวิชาการกฎหมายยุติการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว