พท.ย้ำแก้รธน.ไม่ขัดม.68แต่ทำส.ส.ร.แท้ง

อุดมเดชชี้ศาลยกคำร้องแก้รธน.ไม่ขัดม.68 แต่ส.ส.ร.ก็เกิดไม่ได้ ย้ำแก้ทั้งฉบับต้องทำประชามติถามความเห็นปชช. มั่นใจแดงเลิกเคลื่อนไหวหลังจากนี้

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยภายหลังรับทราบคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยกคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่ โดยยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงต้องเดินหน้าต่อไป แต่เป็นเพียงแก้ไขในบางประเด็นเท่านั้น ส่วนวาระ 3 ที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระนั้น ถือว่าเป็นอันตกไปตามวินิจฉัยของศาล และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็ไม่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี แนวทางการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญจากนี้ไป คงจะมีการเรียกประชุมสส.ในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อกำหนดทิศทางและกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นวันใด

ส่วนกรณีที่ที่พรรคเพื่อไทยระบุก่อนหน้านี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำเพียงมาตราเดียว คือ มาตรา 291 ไม่ได้ทำทั้งฉบับ ดังนั้นจึงไม่ต้องผ่านการทำประชามติ นายอุดมเดช กล่าวว่า ตามหลักการเป็นเช่นนั้น แต่ขณะนี้ตุลาการได้พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำได้

ดังนั้น เห็นว่ามีแค่ทางเลือกเดียว คือ การเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมูญเป็นรายมาตรา เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ โดยใช้เสียง 1 ใน 5 หรือ 100 คน เพื่อเสนอญัตติดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเสนอญัตติขอแก้ไขทุกพรรคการเมืองสามารถยื่นเสนอญัตติได้

สำหรับความเป็นไปได้ที่จะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไปทำประชามติเพื่อถามความเห็นจากประชาชน นั้น ยืนยันว่าไม่มีช่องทางดังกล่าวอย่างแน่นอน เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดแล้วว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา ดังกล่าว ซึ่งเพิ่มหมวดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่สามารถทำได้ แต่หากจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องผ่านการลงประชามติจากประชาชนก่อนเท่านั้น

นอกจากนี้ การประเมินสถานการณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงต่อคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นายอุดมเดช กล่าวว่าตนไม่ทราบ แต่ในประเด็นคำพิจารณาของศาลนั้น เชื่อว่าจะมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ สำหรับคนที่ไม่พอใจไม่สามารถประเมินความเคลื่อนไหวได้ ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นสส.พรรคเพื่อไทย เคยแถลงว่าจะออกมาเคลื่อนไหวหลังจากที่ศาลนั้น ยืนยันว่าแกนนำไม่เคยระบุชัดเจน

“ผมมองว่าขณะนี้อำนาจตุลาการได้ขยายขอบข่ายอำนาจเข้ามาครอบงำอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว ส่วนหลังจากนี้ไปจะเกิดปัญหาระหว่างอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ตราบใดที่แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่มีการแทรกแซง ก็จะไม่เกิดปัญหา”นายอุดมเดช กล่าว