posttoday

ขอศาลเลื่อนอ่านคดีค้านแก้ไขรธน.

12 กรกฎาคม 2555

เครือข่ายผู้ไม่อยากเห็นชาติแตกแยกยื่นศาลรธน.เลื่อนอ่านคำวินิจฉัยให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจก่อนด้าน กองทัพปลดแอกฯ บุกศาลรธน.ป้องตุลาการฯ

เครือข่ายผู้ไม่อยากเห็นชาติแตกแยกยื่นศาลรธน.เลื่อนอ่านคำวินิจฉัยให้ประชาชนทำความเข้าใจก่อนด้าน กองทัพปลดแอกฯ บุกศาลรธน.ป้องตุลาการฯ

นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ในนาม"กลุ่มเครือข่ายประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยกับความแตกแยกของคนในชาติ"ได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้เลื่อนเวลาการอ่านคำวินิจฉัย กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญตามที่มีผู้ร้องหรือไม่ไปก่อน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เพราะการตัดสินที่จะเกิดขึ้น เกิดในเวลาที่เร็วจนเกินไป ขณะที่แต่ละฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียล้วนมีความเห็นที่แตกต่างออกไป และอาจกลายเป็นความแตกแยกครั้งใหญ่  

ทั้งนี้ การเลื่อนเวลาพิจารณาออกไปยังทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของประเทศได้มีเวลา ทำความเข้าใจในรายละเอียด เหตุและผลอย่างเพียงพอ จะนำมาซึ่งการยอมรับคำวินิจฉัย และคำตัดสินของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ขอศาลเลื่อนอ่านคดีค้านแก้ไขรธน. ภาพประกอบข่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมในนามกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 500 คน เดินทางมาชุมนุมบริเวณหน้าลานสนามหญ้า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ฝั่งทิศเหนือ เพื่อให้กำลังตุลาการฯศาลรัฐธรรมนูญ ในการปฏิบัติหน้าที่เขียนคำวินิจฉัย

โดยนายทองดี นามแสงโคตร ผู้ประสานงาน กล่าวว่า กลุ่มกองทัพปลดแอกฯจะปักหลักชุมนุมจนถึงวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรพร้อมน้อมรับคำตัดสิน และจะไม่มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ โดยจุดประสงค์หลักในการมาชุมนุมในครั้งนี้เพื่อมาปกป้องตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญให้มีความเป็นอิสระในการตัดสินคดีและปกป้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้ได้รับอันตรายหากเกิดเหตุรุนแรง

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยถึงการเตรียมการดูแลความเรียบร้อยโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีประชาชนมาชุมนุมในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า เบื้องต้นจัดเตรียมกำลังดูแลความเรียบร้อยไว้ 3 กองร้อย โดยทั้งหมดจะลงพื้นที่ดูแลศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายของวันนี้ (12 ก.ค.) ซึ่งจะมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีกำลังเสริมอีกจำนวน 3 กองร้อยจากกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ที่พร้อมเคลื่อนที่ตลอดเวลา รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบอีกจำนวนหนึ่งที่จะปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อหาข่าวเคลื่อนไหว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าไม่น่าจะมีสถานการณ์รุนแรงแต่อย่างใด กำลังตำรวจที่มีอยู่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน อีกทั้งตนจะลงไปกำกับดูแลเหตุการณ์ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด แต่ทั้งนี้ตำรวจก็ไม่ประมาท มีการซักซ้อมแผนปฏิบัติการ แผนเผชิญเหตุไว้แล้ว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ควบคุมฝูงชน