posttoday

ชวน ปัดข่าวนายกฯแคนดิเดตหลังพลิกขั้ว

11 กรกฎาคม 2555

ชวน ฟันธง หลังคำตัดสินศาลรธน. รัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยน ปัดกระแสข่าวแคนดิเดตนายกฯ หลังพลิกขั้ว

ชวน ฟันธง หลังคำตัดสินศาลรธน. รัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยน ปัดกระแสข่าวแคนดิเดตนายกฯ หลังพลิกขั้ว

ชวน ปัดข่าวนายกฯแคนดิเดตหลังพลิกขั้ว

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงหลายฝ่ายพุ่งเป้ากดดันการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 13 ก.ค.นี้   ว่า หลายคนเป็นห่วงที่ตุลาการโดนคุกคามวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักแต่ประสบการณ์ยาวนานในฐานะผู้พิพากษา หรือตำแหน่งอื่นก็ดี ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันให้ไม่หวั่นไหว  อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้พิพากษาหรือข้าราชการระดับสูงอื่นก็ไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์  อย่างผู้พิพากษาตัดสินก็ไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์อย่างนี้ อันนี้ทำให้เกิดความห่วงใยว่าศาลจะมีความเป็นอิสระได้เพียงใด ส่วนตัวเชื่อว่าท่านคงจะมีประสบการณ์ในช่วงศาลรัฐธรรมนูญนี้ ที่มีผู้หลักผู้ใหญ่วิ่งเต้นคดี หรือโทรศัพท์มาขู่ว่าจะเปิดคลิป ไม่เปิดคลิป อันนี้ไม่ใช่ของใหม่ของตุลาการชุดนี้ เพราะฉนั้นเชื่อว่าตุลาการจะรักษาความเป็นอิสระไว้ได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังคือ คำแนะนำที่ให้ตุลาการตัดสินตามความพอใของตัวเองหรือเอาเหตุการณ์บ้านเมืองมาเป็นเงื่อนไข  ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่จริงไม่ใช่เหตุผลเป็นเงื่อนไขต้องนำมาเป็นหลักวินิจฉัยเพราะฝนจะตกแดดจะออกก็ต้องตัดสินไป ความเป็นธรรมก็ต้องเหมือนกัน ไม่ใช่ตัดสินวันฝนตกอย่างหนึ่งวันแดดออกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรไม่ใช่เรื่องตุลาการ  ตุลาการมีหน้าที่ตัดสินไปตามความเป็นจริงและตามฎหมายที่ีมีอยู่ ไม่ใช่หน้าที่ตุลาการจะไปพะวงว่าบ้านเมือง​ เพราะคนที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองก็คือฝ่ายบริหารเขาถึงแบ่งหน้าที่กันไป ฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมาย ฝ่ายบริหารใช้กฎหมาย ฝ่ายตุลาการวินิจฉัยกฎหมาย

“คำแนะนำที่ให้ตุลาการคำนึงถึงเรื่องที่อยู่นอกคดีเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายถ้าไปใช้หลักนี้ มันจะมีปัญหาติดตามมา คือเป็นการตัดสินตามแรงกดดัน ตามคำเรียกร้องซึ่งมันไม่ถูก อันนี้เราจะต้องเข้าใจบทบาทตุลาการ ทีสำคัญคือครั้งนี้จะเป็นบทเรียนอีกครั้งหนึ่งเป็นประสบการณ์อีกครั้งหนึ่ง  ของกระบวนการประชาธิปไตยที่ฝ่ายตุลาการ ได้รับภาระหน้าที่ในการทำนหน้าที่ วินิจฉัยปัญหาที่เป็นบทบาทของฝ่ายตุลาการ” นายชวน กล่าว 

นายชวน กล่าวว่า  ส่วนตัวได้ติดตามการยื่นคำร้องให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พิจารณา แต่ในวันที่มีการไต่สวนพยานของศาลรัฐธรรมนูญ ​อยู่ต่างจังหวัด เลยไม่ได้ดูทั้งวัน ซึ่งนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้ร้องที่ 3 ในคดีนี้ ก็ส่งสำนวนมาให้ดู แต่ไม่ได้ไปให้คำแนะนำหรือ เกี่ยวข้องอะไร เพียงแต่โทรศัพท์ไปคุยวันที่ไต่สวน   แต่นายวิรัตน์ อยู่ในห้องเลยรับไม่ได้  ส่วนผลจะออกมาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68 หรือไม่ เดี๋ยวศาลก็จะตอบเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ผลการตัดสินของศาลจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรกับบ้านเมือง นายชวน กล่าวว่า ​รัฐบาลก็คงไม่เปลี่ยนก็คงเป็นชุดนี้ ​จะตัดสินอย่างไรรัฐบาลก็ยังอยู่ ยังมีเสียงอยู่ รัฐบาลต้องอาศัยเสียงข้างมาก ไม่เปลี่ยนอะไรแต่ทำอย่างไรให้สถาบันศาล ซึ่งเราถือว่าเป็นที่พึ่งสุดท้ายได้ทำหน้าที่สมบูรณ์​ ท่ามกลาง เสีงคุกคามข่มขู่ ทำอย่างไรให้มีความอิสระ  ซึ่งการทำลายความอิรสระมีหลายอย่าง ทั้งวิ่งเต้นล้มคดี  ข่มขู่ คุกคาม ศาลคือปุถุชนไม่ใช่มนุษย์ต่างจากเรา ​ แต่คิดว่า​ประสบการณ์ ​ความเป็นมืออาชีพ อาจะช่วยไม่ให้หวั่นไหวไปตามแรงคุกคาม

อย่างไรก็ตาม ส่วนเหตุการณ์อย่างอื่นก็คงไม่มีอะไร เพราะความไม่พอใจ หรือ ความพอใจก็คงมีอยู่ธรรมดาแต่ คนที่จะเป็นปัญหาส่วนใหญ่เป็นคนของรัฐบาล  ตนเองคิดว่าเมื่อรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนในรัฐบาลจะก่อปัญหาอีก ความจริงรัฐบาล  ห้ามคนให้หยุดก่อปัญหาได้  ส่วนคนกลุ่มอื่นที่ชุมนุม เท่าที่ผ่านมาก็ชุมนุมปกติโดยสงบไม่ก่อปัญหาวุ่นวาย  เผานู่นนี่ ไม่มีปัญหาอะไร  เพราะรัฐบาลดูแลได้อยู่แล้ว เพียงแต่ปรามคนของตัวเองไม่ให้สร้างปัญหา  ถ้าปรามได้ไม่คิดว่าจะมีอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย ภาวนาบ้านเมืองสงบเรียบร้อย นายชวน กล่าวว่า ทุกคนก็ห่วง  แต่บ้านเมือง กับ ปัญหา เป็นของคู่กัน  มันต้องมีหน้าที่แก้ปัญหา เขาถึงแบ่งอำนาจกันไป  ว่าฝ่ายไหนมีหน้าที่แก้ปัญหาอะไร รัฐบาลมีหน้าที่อะไร  ฝ่ายตุลาการมีหน้าที่อะไร ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ อะไร ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แต่ละฝ่าย เหมือนพระราชดำรัสของในหลวงพระราชทาน วันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่ให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ก็ไม่มีปัญหา 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสว่าการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดรธน.หรือไม่ เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพลิกขั้วรัฐบาล ​นายชวน กล่าวว่า​ “เป็นไปไม่ได้ เสียงข้างมาในระบบนี้ต้องอาศัยเสียงข้างมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  มาเป็นนายกฯ ก็ ใช้เสียงข้างมาก ไม่ไได้พลิกขั้วอะไร

ถามว่ามีชื่อนายชวนเป็นแคนดิเดตนายกฯ หากมีการพลิกขั้ว​นายชวนกล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ไม่มี  ไม่มี อบต.ไหน   ไม่มีสิทธิครั้บ”