posttoday

คนเชื่อหลังไต่สวนการเมืองไทยยังแตกแยก

08 กรกฎาคม 2555

สวนดุสิตโพลเผยคนไม่แน่ใจการแก้ไขรธน.ล้มระบบการปกครองหรือไม่เชื่อการเมืองยังขัดแย้งเหมือนเดิม

สวนดุสิตโพลเผยคนไม่แน่ใจการแก้ไขรธน.ล้มระบบการปกครองหรือไม่เชื่อการเมืองยังขัดแย้งเหมือนเดิม

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,389 คน ระหว่างวันที่ 6-7ก.ค.2555 กรณีศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขัดต่อมาตรา 68 ถือเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ สรุปผลดังนี้

คนเชื่อหลังไต่สวนการเมืองไทยยังแตกแยก สวนดุสิตโพล

1. การติดตามข่าวการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญของประชาชน
อันดับ 1ติดตามอยู่บ้าง34.99%เพราะ อยากฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย จะได้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ,สื่อต่างๆมีการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ,มีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ฯลฯ
อันดับ 2ไม่ค่อยได้ติดตาม28.29%เพราะ ไม่สะดวก ต้องทำงาน ,ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง ,รอฟังคำตัดสินในวันที่ 13 ก.ค. ฯลฯ
อันดับ 3ติดตามโดยตลอด21.38%เพราะ อยากรู้ข้อเท็จจริง ,รธน.เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศเกี่ยวข้องกับของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักการเมืองเท่านั้น ฯลฯ
อันดับ 4ไม่ได้ติดตามเลย15.34%เพราะ เบื่อ ไม่ชอบ ไม่สนใจการเมือง มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หาเรื่องโจมตีกันไปมา ฯลฯ
          
(กรณี ผู้ที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 1,176 คน)สวนดุสิตโพล ได้สอบถามความคิดเห็น ตั้งแต่ข้อ 2-5 ปรากฎผลดังนี้
         
2.ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญได้รับประโยชน์จากการติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ
อันดับ 1ได้รับรู้ข้อเท็จจริงและเห็นท่าทีของทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง/มีความเข้าใจเรื่องการแก้ไขรธน.มากขึ้น 63.22%
อันดับ 2ได้รับรู้ขั้นตอนและกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ21.24%
อันดับ 3มีข้อมูลเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น /ผลกระทบหลังจากการพิจารณาเสร็จสิ้นลง15.54%
         
3. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่ อย่างไร?
อันดับ1 ไม่แน่ใจ45.93%เพราะ ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้มากพอ ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการแก้ไข รธน. ,ต่างคนก็ต่างความคิดกันไป ,รอฟังคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า ฯลฯ
อันดับ2 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 โดย29.66%เพราะเป็นเพียงการแก้ไขบางมาตราเท่านั้น ไม่มีเนื้อหาที่ระบุว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ,คิดว่าเป็นเรื่องที่ผู้ร้องตีตนไปก่อนไข้ ,เป็นการทำตามสัญญาที่รัฐบาลได้ให้ไว้กับประชาชน ฯลฯ
อันดับ3 เป็นการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 โดย24.41%เพราะ เหตุผลประกอบในการแก้ไขรธน.ยังไม่มีน้ำหนักพอ เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์และช่วยเหลือพวกพ้องมากกว่า ฯลฯ
         
4. จากที่มีการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่า“สภาพการเมืองไทย” ณ วันนี้ เป็นอย่างไร?
อันดับ1 ยังคงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกมุ่งแต่การเอาชนะคะคานกัน/เห็นแก่ประโยชน์และพวกพ้อง 46.88%
อันดับ2 การพิจารณาคดีนี้ต้องอาศัยความยุติธรรม และความเด็ดขาด /ศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่านเป็นที่พึ่งและเป็นความหวังของประชาชน29.46%
อันดับ3 สภาพการเมืองที่ย่ำแย่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ใช้อำนาจในทางที่ผิดการคุกคามจากนักการเมือง 9.82%
อันดับ4 การเมือง ณ วันนี้มีความเกี่ยวข้องโยงใยแทบจะทุกเรื่อง พยายามที่จะเข้าไปแทรกแซงในทุกหน่วยงาน แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น 8.04%
อันดับ5 การตัดสินครั้งนี้อาจส่งผลให้ประชาชนมีการชุมนุมหรือเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมือง 5.80%
         
5. ประชาชนที่ติดตามการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญคิดว่าทิศทางการเมืองไทยหลังจากการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จะเป็นอย่างไร?
อันดับ1 เหมือนเดิม59.49%เพราะ ยังคงมีเรื่องผลประโยชน์และความขัดแย้งทางการเมืองอยู่ ,การเคลื่อนไหว ชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มต่างๆยังมีให้เห็น ฯลฯ
อันดับ2 แย่ลง26.06%เพราะ ถึงแม้การตัดสินจะสิ้นสุดลงเชื่อว่าเรื่องนี้ยังคงมีการถกเถียงกันไม่จบสิ้น ,ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและยังเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่ ,เห็นได้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งมีความรุนแรงมากขึ้น ฯลฯ
อันดับ3 ดีขึ้น14.45%เพราะ ถึงแม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกคนต้องยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ,ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเองต่อไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ผลงานให้ประชาชนได้เห็น ฯลฯ