posttoday

นายกฯวอนศาลเป็นธรรมคดีค้านแก้รธน.

02 กรกฎาคม 2555

นายกฯยังไร้แผนสำรองหากศาลรธน.วินิจฉัยว่าการแก้ไขรธน.เพื่อล้มล้างการปกครองอ้างรอความชัดเจนก่อน

นายกฯยังไร้แผนสำรองหากศาลรธน.วินิจฉัยว่าการแก้ไขรธน.เพื่อล้มล้างการปกครองอ้างรอความชัดเจนก่อน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัปดาห์นี้ว่า คงต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เจตนารมณ์ของรัฐบาล เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่มีการชี้แจงต่อรัฐสภาอยู่แล้ว และทั้งหมดนี้ได้ผ่านขั้นตอนไปสู่รัฐสภา ดังนั้นขอให้รอผลจะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลมีแผนสำรองเพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่ หากมีปัญหา นายกฯ กล่าวว่า  ยัง ต้องรอฟังผลคำวินิจฉัยออกมาก่อน เราไม่ยังไม่อยากก้าวล่วง

เมื่อถามว่าบางคนห่วงว่ารัฐบาลจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หวังและเชื่อมั่นว่าผู้ตัดสินคงจะให้ความเป็นธรรมและพิจารณาจากข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะกลับมาร้อนแรงอีก เพราะเวลานี้มีกลุ่มต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน มีทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้านรัฐบาล  นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากขอวิงวอนทุกภาคส่วน ข้อคิดเห็นที่แตกต่างสามารถทำได้ ภายใต้ขอบเขตสิทธิเสรีภาพและข้อกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามอยากให้แสดงออกทางความคิดเห็นให้เกิดความสงบและเกิดความเชื่อมั่นเพราะวันนี้ประเทศไทยไม่ใช่แค่จะต้องมาแก้ปัญหาในประเทศอย่างเดียว ต้องคอยรองรับปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกด้วย ถ้าเราร่วมกันในการสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้ประเทศชาติก้าวพ้นไปได้  อันนี้จะทำให้ประเทศของเราสามารถเดินต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยจะดูแลคนเสื้อแดง กลุ่มสนับสนุนของพรรคอย่างไรเพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่า อย่างที่เรียนต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การที่แสดงความคิดเห็นเราเคารพสิทธิ และความคิดเห็นทุกท่าน ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่เราจะได้รับฟัง แต่อย่างไรก็ตามขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและการชุมนุมอะไรต่าง ๆ ขอให้เป็นไปโดยสงบ

เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นนายกฯ จะวิงวอนฝ่ายการเมืองที่อยู่ในสภา ทั้งหมด อย่าขึ้นเวทีในช่วงนี้ เพราะเหมือนเป็นการปลุกระดม ทั้งเรื่องดีและไม่ดี และอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเป็นภายใต้ของการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ตามสิทธิเสรีภาพก็พึงกระทำได้ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ต้องเรียกว่าขอความร่วมมือกันมากกว่า และจริง ๆ แล้วเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการชี้แจงในสิ่งที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์กับประชาชนและสิ่งไหนที่เป็นทางออกให้กับประเทศ อันนี้น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า การที่จะมาโต้ปัญหากันในเรื่องความขัดแย้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้นายกฯห่วงและหนักใจเรื่องอะไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความเข้าใจมากกว่า ซึ่งเราต้องช่วยกัน และต้องได้รับความร่วมมือจากทุก ๆ ส่วนโดยมีการคุยกัน ชี้แจงกันในเรื่องประโยชน์ต่าง ๆ และทางออกของประเทศ ถ้าเราคุยกันแต่ปัญหาความขัดแย้ง สุดท้ายประเทศจะไม่มีทางออก ต้องให้ทุกอย่างก้าวผ่านไปให้ได้ วันนี้ทุกภาคส่วนต้องอดทนและช่วยกัน ประคับประคองบรรยากาศต่าง ๆ ให้เป็นบรรยากาศที่เป็นไปอย่างสงบ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า เพราะวันนี้เราเดือดร้อนมาเยอะ ประชาชนเดือดร้อนมาเยอะ คงอยากจะร่วมกันทำอย่างไรให้ประเทศนั้นมีความสงบสุขร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน