posttoday

วงเสวนาวุฒิสภาต้านแก้รธน.50

29 มิถุนายน 2555

วงเสวนาวุฒิสภาต้านแก้รธน.50 ชี้ เปิดช่องให้นายทุนครอบงำประเทศ กิตติศักดิ์ เสนอ ถอยก่อนพังทั้งระบบ

วงเสวนาวุฒิสภาต้านแก้รธน.50 ชี้ เปิดช่องให้นายทุนครอบงำประเทศ กิตติศักดิ์ เสนอ ถอยก่อนพังทั้งระบบ

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค(กมธ.) ร่วมกับคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา  ได้จัดเสวนาเรื่อง “สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย” โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหา กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีแต่ความขัดแย้ง มีการแบ่งฝ่าย ซึ่งไม่เหมาะต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเมื่อพิจารณาดูจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนาเสนอ เป็นการทำเพื่อประโยชน์ตนเอง

“ทั้ง 2 พรรคมีความเจ็บปวดเรื่องการยุบพรรค เพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง คือ ไปซื้อเสียง จึงต้องการแก้ ซึ่งตนเคยพูดว่าไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญใด ควรแก้ที่สันดานของนักการเมืองเองจะดีกว่า นอกจากนั้นแล้วมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อตอบสนองตัณหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เท่านั้น” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

นายกิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ2534เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ2540 เวลานั้นได้รับการยินยอมจากประชาชนและสังคมทำให้การดำเนินการไม่เกิดปัญหา ผิดกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ตอนนี้ซึ่งมีปัญหาเพราะประชาชนยังมีความเห็นต่างในทางวิชาการทั้งทางนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์

“มองว่าหากทำไปจะมีแต่มีแต่ความแตกแยก ทางที่ดีที่สดคือให้ชะลอไปก่อน และไปทำความเข้าใจกับสังคมให้เกิดความเห็นพ้องจนกว่าจะปรองดองจึงจะสามารถแก้ไขได้” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ด้านนายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ2550 กล่าวว่า หากจะแก้รัฐธรรมนูญต้องกำจัดนายทุนที่ครอบงำพรรคการเมืองออกไปก่อน พร้อมทั้งหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมต้องแก้ไข จะมาอ้างรัฐประหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญทุกฉบับก็ล้วนเกิดจากการรัฐประหารทั้งนั้น ที่สำคัญจะต้องถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับแก้ไขหรือไม่ ไม่ใช่อ้างว่าได้เสียงจากการเลือกตั้งจะทำอะไรก็ได้

“ฟังธงไว้เลยว่าหากปล่อยให้มีการแก้ไขไปเช่นนี้ก็อาจจมีการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมาหกษัตริย์ทรงประเป็นประมุขได้ รวมทั้งล้มระบบการตรวจสอบนักการเมือง อาทิ ปปช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง นอกจากนี้จะมีการเข้ามาแก้ไขให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงระบบราชการ เพื่อให้นายทุนที่อาศัยคราบนักการเมืองมาครอบงำประเทศ” นายคมสันต์ กล่าว